“บอร์ด กองทุนกีฬาชาติ” ไฟเขียว งบประมาณ จำนวน 72,800,000 บาท ให้กับ 77 จังหวัด นำไปใช้ในการแข่งขันรอบคัดเลือก การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 38 และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 5 ด้าน “ดร.สุปราณี คุปตาสา” ผจก.กองทุน ระบุ ทันทีที่ได้รับคำสั่ง ทางกองทุนฯ ไม่นิ่งนอนใจ ร่วมมือกับ กกท. เร่งแก้ปัญหา “เงินค้างท่อ” อย่างเต็มที่ โดยเตรียมจัดการประชุมสัมมนา และจัด Workshop ระบบคําขอ NSDF การใช้งานจริง ให้ผู้ขอรับการส่งเสริมสนับสนุนจากงบประมาณกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2565 ณ Crystal Design Center HALL (เลียบด่วนรามอินทรา)
ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้กำชับมาอย่างหนักแน่นให้ทางกองทุนฯ และ กกท. เร่งดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และสมากีฬาแห่งจังหวัด หรือที่เรียกว่า “เงินค้างท่อ” ให้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน นั้น
“ในเรื่องนี้ ตนเองในฐานะ ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ก็ได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกสมาคมกีฬา ไม่เกิดปัญหาด้านการเบิกจ่ายงบประมาณอีกต่อไป ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้รับข่าวดีแล้ว หลังจากการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานการประชุม ได้มีการนำเสนอในเรื่องโครงการสนับสนุนนักกีฬาเพื่อการแข่งขันระดับชาติ (ส่งแข่งขัน) ภายในกรอบวงเงินการส่งแข่งขันรอบคัดเลือก การแข่งขันกีฬาเยาวชน ครั้งที่ 38 จำนวน 60,000,000 บาท และการส่งแข่งขันคัดเลือก ในการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 5 วงเงิน 12,800,000 บาท เข้าสู่ที่ประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีมติอนุมัติงบประมาณทั้ง 2 รายการ ตามที่นำเสนอขอรับการสนับสนุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 72,800,000 บาท”
ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กล่าวต่อไปว่า งบประมาณที่ได้รับการอนุมัติทั้ง 2 รายการ นั้น เป็นการสนับสนุนทั้ง 77 จังหวัด ให้เป็นค่าส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันคัดเลือกตัวแทนระดับภาค 5 ภาค เพื่อเข้าแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 38 และการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 5 ที่จังหวัดนครสวรรค์ จะเป็นเจ้าภาพ โดยทั้ง 5 ภาค กำหนดแข่งขันระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึง ธันวาคม 2565 ส่วนขั้นตอนต่อไป ฝ่ายที่เกี่ยวข้องใน กกท. จะดำเนินการทำเรื่องเบิกจ่ายให้กับทุกจังหวัดให้ได้รับ ก่อนที่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ จะเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันต่อไป
“ภายหลังจากที่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และ กกท. รับนโยบายเร่งด่วนจากทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในการแก้ไขปัญหาเงินค้างท่อ เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ต่างได้ร่วมมือร่วมใจกันทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้สมาคมกีฬาต่างๆ ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งจากการที่ได้รับอนุมัติงบประมาณกว่า 72.8 ล้านบาท ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่าทางกองทุนฯ และ กกท. มีความจริงใจ ทำงานอย่างถูกต้องและโปร่งใส เพื่อสนับสนุนและร่วมมือกับทุกสมาคมกีฬา ในการเดินหน้าพัฒนาการกีฬาในทุกระดับต่างๆ ของประเทศ” ดร.สุปราณี กล่าวย้ำ