ตลาดลาดชะโด ชวนไปเที่ยวอยุธยา แวะเที่ยวตลาดริมคลองเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ชมอาคารบ้านเรือนโบราณมาที่นี่ที่เดียวได้ทั้ง กิน เที่ยว ช้อป
ตลาดลาดชะโด เป็นอีกหนึ่งตลาดเก่าแก่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีอายุกว่า 100 ปี มีพัฒนาการมาจากตลาดน้ำที่มีเรือนแพค้าขายของชาวจีน จากนั้นได้เริ่มมีการก่อสร้างตลาดริมน้ำและบนบกขึ้นให้กว้างใหญ่กว่าร้อยคูหา ปัจจุบันยกจากน้ำขึ้นบกกลายเป็นตลาดวิถีชีวิตริมน้ำ
สำหรับ ตลาดลาดชะโด ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้หลายคนได้รู้จักมากขึ้นด้วยการจัดประเพณีงานแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ณ คลองลาดชะโด (วันอาสาฬหบูชา วันที่ 19 กรกฎาคม 2559) เพื่อสืบสานประเพณีเก่าแก่หนึ่งเดียวในประเทศไทยให้คงอยู่คู่กับความเป็นเอกลักษณ์ของตลาดลาดชะโด ด้วยเรือนไม้ขนาดใหญ่ที่สร้างหันหน้าเข้าหากัน ด้านหน้าทางเดินสร้างเป็นถนนกว้าง ๆ เชื่อมโยงชุมชนที่มีทั้งวัด โรงเรียน ศาลเจ้า โรงสีและโรงภาพยนตร์เก่าแก่เข้าด้วยกัน
ส่วนชื่อเดิมของชุมชนลาดชะโดแห่งนี้เรียกว่าบ้านจักราช เป็นชุมชนที่เกิดขึ้นหลังจากพม่าปล้นกรุงศรีอยุธยาและถอนกำลังลงไปในปี พ.ศ. 2310 และชื่อของชุมชนลาดชะโดนั้น มาจากบริเวณบ้านจักราช มีคลองที่เชื่อมต่อออกไปสู่แม่น้ำน้อยและมีปลาชะโดจำนวนมากนั้นเอง
ปัจจุบันชาวชุมชนลาดชะโดได้ร่วมใจกันอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนในชุมชน จนได้พระราชทานรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น เมื่อปี พ.ศ. 2549 ซึ่งภายในตลาดก็มีร้านค้าเก่าแก่มากมาย อาทิ ร้านถ่ายรูป, ร้านตัดผม, ร้านตัดเสื้อ, ร้านขายของชำ, ร้านยาไทยของหมอจรัล ที่โด่งดังมากเรื่องยารักษาไข้ทับระดู แถมที่นี่ยังเป็นบ้านเกิดศิลปิน นักร้อง นักแต่งเพลง ในยุคทศวรรษ 1970 ธีรศักดิ์ อัจจิมานนท์ ผู้ขับร้องเพลงกุหลาบแดง และลมลวงที่โด่งดังอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์บ้านเก่าของนายกเทศมนตรี ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์และพวกหรีดผ้าซึ่งเป็นของมีชื่อเสียงของที่นี่ รวมทั้งมีการจัดแสดงภาพถ่ายข้าวของเครื่องใช้ในอดีต มีตู้แสดงปลาน้ำจืดหลายพันธุ์ โรงมหรสพที่ปัจจุบันกลายเป็นสมาคมชาวประมง โรงฉายหนังฉายให้ชมฟรี ๆ
และที่ตลาดลาดชะโดยังเป็นโลเคชั่นหลักของภาพยนตร์-ละครหลายเรื่องที่เคยยกกองมาถ่ายทำ อาทิ บุญชู, รักข้ามคลอง, ดงดอกเหมย และความสุขของกะทิ เป็นต้น พร้อมชมซากเรือเมล์ขนาดใหญ่ที่ถูกกู้ขึ้นมาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม
ส่วนเมนูอาหารภายในตลาดลาดชะโดก็มีให้เลือกมากมาย ซึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดชิม ได้แก่ แกงบอน ร้านข้าวแกงแม่ชั้ว, ห่อหมกปลาช่อนชิ้นโตใส่ใบยอ, ต้มเค็มปลาตะเพียน สูตรโบราณใส่อ้อย สับปะรด ส้มมะขาม, ปลาเห็ด (ทอดมัน) ทำจากปลาสร้อย, กวยจั๊บป้าพะเนียด, ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น กรุงเก่า, เป็ดย่าง, เป็ดพะโล้ร้านลุงหนวด, ห่อหมกครก, ขนมต้มสมุนไพร, ขนมถั่วแปบใบเตย และขนมหม้อแกง รวมทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรเด็ดเสิร์ฟบนแพหลังใหญ่ริมน้ำ
ส่วนกิจกรรมท่องเที่ยวนอกจากการเดินช้อป ชิม ภายในตลาดแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถล่องเรือชมวิถีชีวิตริมคลองลาดชะโด การยกยอ ทอดแห บ้านเรือนไทยริมน้ำ ค่านั่งเรือคนละ 10 บาท หรือเหมาทั้งลำ 50 บาท อ๊ะ ๆ มาเที่ยวทั้งทีจะกลับไปมือเปล่าก็กระไรอยู่ ที่นี่มีของฝากยอดฮิตที่จะต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้แก่ ปลาตะเพียนแล่แดดเดียวและปลาย่างรมควัน เมนูขึ้นชื่อของชาวบ้านย่านตลาดชะโดนั่นเอง
หลังจากจบการชิมของอร่อยแล้วยังสามารถแวะเที่ยว “วัดลาดชะโด” วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ร่วมสักการะรูปเหมือนหลวงพ่ออุปัชฌาย์ อิ่ม ธมมสาโร (อิ่ม ผาสุกถ้อย) อดีตเจ้าอาวาสวัดลาดชะโด ซึ่งเป็นที่เคารพของผู้คนในชุมชน ชมศาลาขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเก่า สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2452 ตัววัดโดดเด่นด้วยเสาทำจากซุงไม้ตะเคียนทั้งต้น พื้นทำจากไม้สักทองทั้งหลัง และสามารถเดินข้ามสะพานเพื่อไปชมโรงพักเก่าแก่ที่ย้ายจากแพขึ้นมาสร้างบนบก รวมทั้งสักการะศาลเจ้าลาดชะโดได้อีกด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว กิน ช้อป ณ แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตลาดลาดชะโด ที่นี่เปิดตลาดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. สอบถามข้อมูลที่ เทศบาลตำบลลาดชะโด เลขที่ 99 หมู่ 1 ตำบลหนองน้ำใหญ่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ 0 3574 0263-4 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ 0 3532 2730-1
วันหยุดนี้มีเวลาก็อย่าลืมแวะไปสัมผัสธรรมชาติริมฝั่งคลอง ชมวิถีชีวิตแบบชาวบ้าน สืบสานวัฒนธรรมแบบโบราณ ณ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยกันนะคะ
ที่มา : https://travel.kapook.com/view152994.html