พระสังกัจจายน์ มหาลาภ ลักษณะรูปยืนองค์ใหญ่
ผู้จัดการออนไลน์
“สมุทรปราการ” เมืองใกล้กรุงที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็น สถานต่างอากาศบางปู ตลาดน้ำบางพลี พระสมุทรเจดีย์ แต่ที่จะแนะนำในครั้งนี้คือ “วัดสาขลา” วัดเก่าเคล้าประวัติศาสตร์คู่เมืองปากน้ำ
พระปรางค์เก่าแก่ ลักษณะเอียงมีความโดดเด่น
“วัดสาขลา” ตั้งอยู่ที่ ตำบลนาเกลือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ประวัติความเป็นมาของวัดแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2325 สันนิษฐานว่าชาวบ้านช่วยกันสร้างเมื่อคราวรบชนะพม่า แต่เดิมชุมชนบ้านสาขลา เป็นชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เมื่อเกิดสงคราม 9 ทัพ รัชกาลที่ 1 ให้ผู้ชายไปเป็นทหาร เหลือแต่ผู้หญิงและคนชรา เมื่อทหารพม่าเดินทัพผ่านมา ชาวบ้านที่เหลือร่วมมือกันสู้พม่าอย่างกล้าหาญจนชนะได้ หมู่บ้านแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า “หมู่บ้านสาวกล้า” ก่อนจะเพี้ยนมาเป็น “หมู่บ้านสาขลา” ตามที่เรียกกันในปัจจุบัน และวัดสาขลาได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อประมาณ พ.ศ. 2375
กว่า 230 ปี ของวัดสาขลาที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันได้ถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จ.สมุทรปราการ เมื่อเข้ามาในวัดแล้วจะพระสังกัจจายน์ มหาลาภ ลักษณะรูปยืนองค์ใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของวัด ใกล้ๆ กันจะเห็นพระปรางค์เก่าแก่ ตั้งอยู่ริมคลอง มีลักษณะเอียงซึ่งมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ก็คือ “พระปรางค์เอียง” ซึ่งเมื่อประมาณ 100 ปีก่อนเกิดการทรุดตัวของแผ่นดินจากน้ำท่วมขัง ทำให้พระปรางค์เอียงแต่ก็มิได้โค่นล้มแต่อย่างใด
ภายในวัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อโต พระพุทธรูปศิลปะสมัยอู่ทอง ปางมารวิชัย ซึ่งมีความงดงามและเป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวบ้านสาขลาเป็นอย่างมาก เมื่อสักการะหลวงพ่อโต
วัดสาขลาแห่งนี้มีทางเข้าลอดโบสถ์เป็นซุ้มพระราหูดูน่าเกรงขาม
ซึ่งพระราหูนั้นก็แสดงถึงการปัดเป่าและป้องกันสิ่งชั่วร้าย เมื่อได้ลอดซุ้มประตูมาแล้วจะพบกับ ลูกนิมิต ลูกเอก ทำจากศิลาแลงอายุหลายร้อยปี มีลักษณะเป็นทรงเหลี่ยม ซึ่งมีลักษณะต่างจากวัดอื่นๆ เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มีช่างฝีมือในการทำจึงได้นำศิลาแลงมาใช้เป็นลูกนิมิต ลูกนิมิตที่วัดสาขลาแห่งนี้มีด้วยกันทั้งหมด 9 ลูก ซึ่งลูกเอกนั้นถูกวางไว้ใต้โบสถ์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะกัน
เมื่อเดินไปตามทางเดินจะพบกับ พระบัวเข็ม ซึ่งประดิษฐานอยู่ท่ามกลางเหล่าดอกบัวมากมาย ซึ่งสาธุชนสามารถมาลอยบัวขอพรพระบัวเข็มได้อีกด้วย ส่วนด้านข้างของพระบัวเข็มนั้นมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังให้ได้สักการะมากมายไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อโต หลวงปู่มั่น หลวงพ่อสด หลวงพ่อเงิน เป็นต้น
ถัดมาจะพบกับ “พระสองพี่น้อง” มีลักษณะครึ่งองค์หันหลังชนกัน เป็นปางห้ามญาติ และปางห้ามสมุทร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยอยุธยาให้ได้ทำบุญตามศรัทธากันด้วย นอกจากนี้ก่อนที่จะออกประตูไปจะพบกับ “ฐานหลวงพ่อโตศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ขอพรกันอีกด้วย จากนั้นให้ลอดท้องช้างออกจากใต้โบสถ์เพื่อความเป็นมงคล
ตามทางเดินนั้นมีสิ่งศักดิ์ให้ได้สักการะ เช่น แม่นางไม้ เทวดาประจำวันเกิด บรมครูปู่ชีวกโกมารภัจ และนอกจากนี้ยังมี สถานที่ๆ น่าสนใจอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์เทพศรีสาขลา เป็นที่รวบรวมเอามหาเทพจากศาสนาฮินดูมาไว้ที่นี่ เพราะเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเคยศึกษาเล่าเรียนได้ศึกษาเรื่องของศาสนาฮินดูมาก่อน ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาที่สวยงามและยังมีองค์มหาเทพมากมายไม่ว่าจะเป็น พระพิฆเนศปางต่างๆ พระตรีมูรติ พระแม่ธรณีมวยผม พญาครุฑ และอื่นๆ อีกมามาย
ห้องถัดมาคือห้องพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศไทย ที่รวบรวมเอาพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วทุกมุมของประเทศไทยมาไว้ที่นี่ที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อคูณ หลวงปู่มั่น หลวงปู่ศุข หลวงปู่แหวน หลวงปู่ทวด หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อแช่ม เป็นต้น ซึ่งพระเกจิอาจารย์เหล่านี้เป็นพระที่ชาวบ้านร่วมกันจัดสร้างถวายวัดด้วยจิตศรัทธาทั้งสิ้น
เมื่อเดินไปเรื่อยๆ จะพบกับเรือนไม้หลังใหญ่สองชั้น ด้านล่างประดับด้วยรูปวิถีชีวิตเก่าๆของชาวบ้านในแถบนั้นนับสิบๆ รูป ดูแล้วทำให้นึกถึงวันเก่าๆ ขึ้นมาทันที เมื่อเดินขึ้นบันไดไม้ไปบนชั้นที่สองจะพบกับ พิพิธภัณฑ์บ้านสาขลา ซึ่งด้านในเป็นที่เก็บรวบรวมของเก่าหายาก ได้แก่ ถ้วย จาน ชาม โบราณ พระพุทธรูป และรวบรวมเอาอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้การหาเลี้ยงชีพของชาวบ้านในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็น ตะคร้อง สลักแทงปู ตะเกียงแก๊ส ไห เป็นต้น
วัดสาขลา
GGW2+45V ถนน สุขสวัสดิ์-วัดสาขลา ตำบล นาเกลือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ 10290