วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี สำนักปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่งของจันทบุรี ภายในประกอบด้วยสิงที่หน้าสนใจเยอะแยะมากมายเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ลานจอดรถ(ขอบอกเลยว่าถ้ามาตรงกับวันหยุดละก็ คนเยอะมากมายเลยทีเดียว)
บริเวณที่จอดรถกว้างขวางพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยวทั้งมาเป็นครอบครัวโดยรถส่วนตัวหรือมาเป็นหมู่คณะโดยรถบัสก็มิเป็นปัญหาแต่อย่างใด
จุดเด่นของที่นี่ คือตัวอาคาร4ชั้น ที่สร้างอยู่บนเนินเขาสูง มองเห็นได้จากระยะไกล วิธีขึ้นไปก็ง่ายแสนง่าย นั่นคือ
1.โดยรถรางที่ให้บริการทุกวันโดยการทำบุญแล้วแต่กำลังความศรัทธา
2.การเดินขึ้นทางบันไดนาคซึ่งมีนาคถึง 7 คู่ด้วยกัน
เมื่อคนไปด้านบนแล้ว เรากราบสักการะพระพุทธรูปศิลาขนาดใหญ่กันก่อนที่จะเข้าไปในตัวอาคารที่เป็นสถานที่ที่ถือว่าสำคัญมากๆเลยแหละ เพราะที่นี่มีสรีระของท่านหลวงปู่สมชาย ผู้ที่ก่อตั้งที่นี่
แต่ก่อนที่หงอยจะพาเพื่อนๆไปกราบสักการะสรีระของท่าน หงอยจะพาเพื่อนๆไปดูกันว่าด้านในมีอะไรบ้าง(ขอบอกเลยว่าใครที่ชอบของเก่า ห้ามพลาดเด็จขาด ไม่งั้นจะเสียใจ แล้วจะหาว่าหงอยไม่บอกไม่ได้นะ) ไปกันเลยดีกว่า ไปกัน ไปกัน
เริ่มจากประตูทางเข้าตัวอาคาร(อ่ะอ่ะ ถอดรองเท้าวางให้เป็นระเบียบด้วยครับ เดี๋ยวจะถูกดุเอานะ) เมื่อเข้าเป็นจะเป็นชั้นที่ 3 ของตัวอาคาร สิ่งที่เราเห็นคือสิ่งของโบราณเยอะแยะมากมาย ทั้งพระพุทธรูปหินอ่อนปางต่างๆ หุ้นขี้ผึ้งผสมไฟเบอร์กลาสของเกจิอาจารย์ดังที่เป็นสายวัสสะนากรรมฐานหลายรูปเลยทีเดียว
แหนะๆสงสัยละซิว่าทำมัยต้องผสมไฟเบอร์ ก็เพราะอากาศบ้านเรา(โคตร)ร้อนสุดๆนะซิขืนใช้ขี้ผึ้งอย่างเดียวมีหวังละลายกลายเป็นไอติมแหงๆ อ่ะๆๆๆชั้นนี้จะมีพระภิษุที่เป็นคนจริงๆมาให้ศีลให้พรกันด้วย เวลาท่านนั่งนิ่งๆนะ ขอบอกเลยว่าเหมือนหุ่นสุดๆ หงอยนี้งงเลย
นอกจากนั้นบริเวณชั้นนี้ยังเก็บรวมรวมของเก่าแก่มากมาย เห็นแล้วอึ้งอะ บางอย่างเห็นแล้วจะรู้สึกว่า”เฮ่ย…เราเกิดทันอะ” ไม่ว่าจะเป็นเงินสกุลต่างๆ(ที่มีหลายสกุลเพราะความศรัทธาที่มีไม่ใช่เฉพาะคนไทยนะครับ ต่างชิาติก็มี เยอะด้วย ไม่ได้โม้)
ข้าวของเครื่องใช้ ถ้วยชาม เป็นของเก่าทั้งนั้น บางชิ้นหาไม่ได้แล้วนะจ๊ะ แต่ที่หงอยชอบสุดๆคือตู้ที่เก็บโทรศัพท์รุ่นต่างๆ โดยเฉพาะ โนเกียรุ่น 3310 อันนี้หงอยเกิดทันหงอยเรียกโทรศัพท์ รุ่นนี้ว่า รุ่นปาหัวหมาแตก เพราะว่ามันโคตรแข็งแรงเลย จะตกยังงัยก็ไม่เคยจะกระจุย ตอนนั้นราคาหมื่นกว่าบาทแหน่ะ แพงเนอะ
นอกจากนั้นยังมีพระพุทธรูปเก่าๆ ศิลปะหลายช่วงสมัย รวมไปถึงของตกแต่งบ้านต่างๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง แจกันลายครามใหญ่มาก บางอันใหญ่เกือน3-4เมตรกันเลยทีเดียว
เที่ยวหนึ่งวัน ตะลุยเมืองจันท์ สัมผัสความเก่าแก่ชุมชนริมน้ำจันทบูร
เที่ยวหนึ่งวัน ตะลุยเมืองจันท์ สัมผัสความเก่าแก่ชุมชนริมน้ำจันทบูร
อ่านต่อ
ตื่นตาตื่นใจกันแล้วไปต่อกันเลยดีกว่า ป่ะป่ะ
ลงมาที่ชั้น 2 ของตัวอาคารเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ที่นี่แหละที่เป็นที่ตั้งของสรีระของหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย พระผู้บุกเบิกและก่อตั้งวัดนี้ขึ้นมา
จากเดิมที่เป็นแค่เนินเขาฮีกิมที่ใช้ปฏิบัติธรรมสุดแสนจะธรรมดา จนกลายมาเป็นวัดเขาสุกิมที่เจริญ กว้างขวาง ซึ่งแสดงให้เห็นแรกศรัทธาที่ประชาชนมีต่อท่านไม่ว่าจะเป็นการมอบที่ดิน(กว้างมว๊าก เยอะมว๊าก)กำลังทรัพย์ในการก่อสร้าง กำลังกาย แล้วการมอบสิ่งของโบราณที่ล้วนแล้วแต่จะหาค่าไม่ได้และบางชิ้นก็มีแค่หนึ่งเดียว ให้แก่ท่านหลวงปู่ได้เก็บรักษาไว้
ถึงแม้ท่านหลวงปู่สมชายจะละสังขารไปนานแล้ว แต่ร่างของท่านที่ไม่เน่าไม่เปื่อยยังคงเก็บรักษาไว้ในโลงสีทอง มีการจัดตกแต่งสถานที่เป็นสวนขนาดย่อมโดยมีหุ่นรูปเหมือนของท่าน(ถ้าลงไปเยี่ยมชมยามโพล้เพล้ละก็ มีโอกาสขนหัวลุกซู่ๆๆๆๆเลย)และยังมีการสวดพระอภิธรรมจนถึงปัจจุบัน และนอกจากนั้นยังมีพระบรมสารีริกธาตุให้ได้สักการะกันอีกหลายองค์ เสร็จจากชั้นสองเราย้อนขึ้นไปที่ชั้น 4 กันดีกว่า
ที่ชั้น 4 เป็นจุดที่เราสามารถมองเห็นทิวทัศของจันทบุรีแบบ 360องศากันเลย และที่นี่ยังมีห้องต่างๆถึง 4 ห้องด้วยกัน ซึ่งห้องเหล่านี้จะเก็บรวมรวบ โต๊ะเก้าอี้ เตียง ตู้ ที่ล้วนแล้วแต่ทำจากไม้สักและฝังมุกทั้งสิ้น
นอกจากนั้นยังมีแจกันเครื่องลายครามเก่าแก่ที่มีขาดใหญ่มากๆ ถึงเล็กสุดๆเลยหละ และที่ขาดไม่ได้คือห้องที่จัดแสดงหุ้นขึ้นผึ้งผสมไฟเบอร์กลาสของเกจิอาจารย์สายวิปัสนากรรมฐานที่ท่านหลวงปู่สมชายท่านนับถือ เช่น หลวงปู่ดูน หลวงปู่ขาว หล่วงปู่สาม พระอาจารย์วัน หลวงปู่สีลา หลวงปู่กงมา หลวงปู่แหวน หลวงปู่สิง หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสา ฯ
ส่วนชั้น 1 นั้นเป็นห้องโถงกว้าง เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของที่นี่
ที่วัดเขาสุกิมแห่งนี้ยังมีบุคคลสำคัญแวะเวียนมาไม่ขาดสายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ เป็นต้น จะเห็นได้จากพระปรมาภิไธย ย่อ ภปร และกุฎิสมเด็จพระเพชรรัตน์ ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระองค์ท่านครั้งเสด็จมาที่วัดเขาสุกิม
บริเวณรอบวัดยังมีบ่อน้ำขาดใหญ่อยู่หลายบ่อเลยแหละ ท่านหลวงปู่ท่านให้ขุดไว้เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในหน้าแล้ง พื้นที่โดยรอบยังให้ก่อสร้างเป็นโรงเรียน โรงพยาบาล โดยใช้ชื่อโรงเรียนวัดเขาสุกิม โรงพยานวัดเขาสุกิม อีกด้วย
เห็นมั้ยครับเพื่อนๆแทบจะทุกส่วนของวัดมีประโยชน์และเป็นประโยชน์แก่ชาวบ้านโดยรอบแทบทั้งสิ้นและตอนนี้ทางวัดกำลังมีการสร้างอาคารเพิ่มเติมอีก1หลัง คาดว่าจะเสร็จในเร็วๆนี้ เสียดายจังวันที่หงอยไปฝนดันตกเลยเก็บภาพมาให้เพื่อนๆดูได้ไม่ทั่ว แต่หงอยว่าคงจะช่วยเพื่อนๆที่สนใจจะไปทำบุญกันได้บ้างหล่ะ….เนอะ ได้ทั้งอาหารทางจิตใจ อาหารสายตา อาหารสมองไปพร้อมๆกันในคราวเดียว คุ้มจริงๆ ไว้ถ้ามีโอกาสหงอยจะเก็บรุปมาฝากเพื่อนๆอีกนะ อย่าเพิ่งเบื่อกันซ่ะก่อนละ…ตอนนี้หงอยเริ่มง่วงแล้ว หงอยไปนอนก่อนนะครับ บายยยยยยยยยย
วัดเขาสุกิม เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของเมืองจันท์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2509 ด้วยแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อพระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย ตั้งอยู่บนเขาแพร่งขาหยั่ง โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นที่บำเพ็ญภาวนาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป
ที่อยู่ : 50 หมู่ 12 ตำบลเขาพลอยศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
เวลาให้บริการ : 06:30-18:00 น. (ทุกวัน)