เกาะปันหยี จังหวัดพังงา กับเรื่องราวน่ารู้มากมาย สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติ และหมู่บ้านกลางทะเล ท่ามกลางวิถีชีวิตชาวบ้านแสนเรียบง่าย
เกาะปันหยี จังหวัดพังงา หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยเป็นเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่กลางทะเล อันกลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่ต่างแวะเวียนมาสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สงบ และเป็นมิตรของชาวบ้าน ตลอดจนธรรมชาติสวย ๆ ยากที่ใครเห็นแล้วจะห้ามใจไม่รักได้ไหว วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาท่องเกาะปันหยีกัน และเมื่อทำความรู้จักเกาะปันหยีแล้วจะได้วางแผนเที่ยวกันได้สบาย ๆ
เกาะปันหยี ประวัติ
1. เกาะปันหยี ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา คำว่า “ปันหยี” แปลว่า ธง เป็นศัพท์อินโดนีเซีย ซึ่งในอดีตมีครอบครัวชาวชวา หรือชาวอินโดนีเซีย 3 ครอบครัว หนึ่งในนั้นมี “โต๊ะนาบู” เป็นผู้นำการอพยพออกมาหาที่ทำกินใหม่ ตกลงกันว่าหากใครพบที่ทำกินที่อุดมสมบูรณ์ ให้ปักธงไว้ และกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะปันหยีนั่นเอง
2. เกาะปันหยี เป็นเกาะเล็ก ๆ มีพื้นที่ราบอยู่ประมาณ 1 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทะเลอ่าวพังงา และบริเวณป่าชายเลนอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา โดยบนเกาะปันหยีมีโรงเรียน สถานีอนามัย มัสยิด และร้านค้า อยู่บนเกาะ
3. เกาะปันหยีประกอบด้วยหมู่บ้านจำนวน 4 หมู่บ้าน คือ
– หมู่ที่ 1 บ้านท่าด่าน ตั้งอยู่บริเวณน้ำตื้นในอ่าวพังงา
– หมู่ที่ 2 เกาะปันหยี ตั้งอยู่บริเวณน้ำตื้นในอ่าวพังงา
– หมู่ที่ 3 เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยู่บนเกาะและป่าชายเลนอ่าวพังงา
– หมู่ที่ 4 เกาะหมากน้อย ตั้งอยู่บนเกาะในอ่าวพังงา
โดยชาวบ้านบนเกาะปันหยีส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และมีศาสนาอื่น ๆ อย่างศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ นับถือรองลงมาตามลำดับ
4. พื้นที่เกาะปันหยีมีจำนวนจำกัด ทำให้ต้องสร้างบ้านเรือน ร้านค้า และโรงเรียนในน้ำ ทำให้ในช่วงเวลาน้ำขึ้น แลดูเหมือนว่าหมู่บ้านปันหยีลอยอยู่กลางท้องทะเล นั่นเป็นเพราะบ้านเรือนเหล่านั้น ถูกสร้างยกระดับให้พ้นการขึ้น-ลงของน้ำทะเล ซึ่งสร้างอยู่บนเสาที่ปักในเลนมาตั้งแต่อดีต
5. ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เกาะปันหยียังคงยึดการทำประมงพื้นบ้านเป็นอาชีพหลัก สังเกตได้จากกระชังเลี้ยงปลาที่อยู่รอบ ๆ เกาะ ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงร้านอาหารให้นักท่องเที่ยวสามารถรับประทานอาหารได้ที่นี่
เกาะปันหยี จังหวัดพังงา กับเรื่องราวน่ารู้มากมาย สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติ และหมู่บ้านกลางทะเล ท่ามกลางวิถีชีวิตชาวบ้านแสนเรียบง่าย
เกาะปันหยี จังหวัดพังงา หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยเป็นเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่กลางทะเล อันกลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่ต่างแวะเวียนมาสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สงบ และเป็นมิตรของชาวบ้าน ตลอดจนธรรมชาติสวย ๆ ยากที่ใครเห็นแล้วจะห้ามใจไม่รักได้ไหว วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาท่องเกาะปันหยีกัน และเมื่อทำความรู้จักเกาะปันหยีแล้วจะได้วางแผนเที่ยวกันได้สบาย ๆ
เกาะปันหยี ประวัติ
1. เกาะปันหยี ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา คำว่า “ปันหยี” แปลว่า ธง เป็นศัพท์อินโดนีเซีย ซึ่งในอดีตมีครอบครัวชาวชวา หรือชาวอินโดนีเซีย 3 ครอบครัว หนึ่งในนั้นมี “โต๊ะนาบู” เป็นผู้นำการอพยพออกมาหาที่ทำกินใหม่ ตกลงกันว่าหากใครพบที่ทำกินที่อุดมสมบูรณ์ ให้ปักธงไว้ และกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะปันหยีนั่นเอง
2. เกาะปันหยี เป็นเกาะเล็ก ๆ มีพื้นที่ราบอยู่ประมาณ 1 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทะเลอ่าวพังงา และบริเวณป่าชายเลนอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา โดยบนเกาะปันหยีมีโรงเรียน สถานีอนามัย มัสยิด และร้านค้า อยู่บนเกาะ
3. เกาะปันหยีประกอบด้วยหมู่บ้านจำนวน 4 หมู่บ้าน คือ
– หมู่ที่ 1 บ้านท่าด่าน ตั้งอยู่บริเวณน้ำตื้นในอ่าวพังงา
– หมู่ที่ 2 เกาะปันหยี ตั้งอยู่บริเวณน้ำตื้นในอ่าวพังงา
– หมู่ที่ 3 เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยู่บนเกาะและป่าชายเลนอ่าวพังงา
– หมู่ที่ 4 เกาะหมากน้อย ตั้งอยู่บนเกาะในอ่าวพังงา
โดยชาวบ้านบนเกาะปันหยีส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และมีศาสนาอื่น ๆ อย่างศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ นับถือรองลงมาตามลำดับ
4. พื้นที่เกาะปันหยีมีจำนวนจำกัด ทำให้ต้องสร้างบ้านเรือน ร้านค้า และโรงเรียนในน้ำ ทำให้ในช่วงเวลาน้ำขึ้น แลดูเหมือนว่าหมู่บ้านปันหยีลอยอยู่กลางท้องทะเล นั่นเป็นเพราะบ้านเรือนเหล่านั้น ถูกสร้างยกระดับให้พ้นการขึ้น-ลงของน้ำทะเล ซึ่งสร้างอยู่บนเสาที่ปักในเลนมาตั้งแต่อดีต
5. ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เกาะปันหยียังคงยึดการทำประมงพื้นบ้านเป็นอาชีพหลัก สังเกตได้จากกระชังเลี้ยงปลาที่อยู่รอบ ๆ เกาะ ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงร้านอาหารให้นักท่องเที่ยวสามารถรับประทานอาหารได้ที่นี่
เที่ยวเกาะปันหยี
6. ไฮไลต์สำคัญของเกาะปันหยี นั่นคือ สนามฟุตบอลลอยน้ำ แห่งเดียวในประเทศไทย ที่กลายเป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวของเกาะปันหยีที่โด่งดังไปทั่วโลก ที่มาจากความตั้งใจของเด็ก ๆ ในชุมชน จนพัฒนาเป็นทีม “ปันหยี เอฟซี” และประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ฟุตบอลหลายรายการ ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 2 สนาม ได้แก่ สนามเดิมที่ยังสามารถเห็นแผ่นกระดานไม้ และสนามใหม่ที่ใช้ทุ่นลอยน้ำทำเป็นสนามฟุตบอล
7. เกาะปันหยียังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม ได้แก่
– บ้านกลางน้ำ เป็นหมู่บ้านเกาะปันหยีที่ปลูกสร้างอยู่กลางทะเลโดยไม่มีพื้นดินเลย เป็นชุมชนมุสลิมตั้งอยู่กลางทะเลมานานกว่า 200 ปี แหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแวะมาเยี่ยมชมตลอดปี
– ลานหอยมุก อยู่บริเวณท่าเรือ โดยเป็นที่ตั้งของรูปปั้นหอยมุกขนาดใหญ่ที่กลายเป็นแลนด์มาร์กของเกาะ
– ถ้ำทะลุ เป็นลักษณะคล้ายเกาะตั้งอยู่ในทะเล มีช่องว่างระหว่างกลางเรียกว่า ถ้ำทะลุ นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือแคนูชมบริเวณโดยรอบได้
– ภูเขาเขียน ชมภาพเขียนโบราณ เชื่อกันว่าเป็นภาพเขียนตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ปรากฏเป็นรูปต่าง ๆ เช่น ลิง ปลาโลมา และจระเข้ เป็นต้น
8. บนเกาะปันหยีไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และตัวนักท่องเที่ยวเองก็ไม่ควรนำติดตัวไปด้วยเช่นกัน รวมถึงควรแต่งกายให้สุภาพ และห้ามเล่นการพนันบนเกาะ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาวัฒนธรรมและประเพณีของชาวบ้านตามหลักศาสนาอิสลามนั่นเอง
9. ช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมของการเที่ยวเกาะปันหยี อยู่ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม-เมษายน ของทุกปี
10. นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเกาะปันหยีส่วนใหญ่มักซื้อโปรแกรมทัวร์จากจังหวัดต่าง ๆ ที่มีให้เลือกหลากหลายราคา ขึ้นอยู่กับว่าโปรแกรมทัวร์นั้นจะพาคุณไปชมยังจุดไหนบ้าง ซึ่งเกาะปันหยีมักจะถูกรวมอยู่ในจุดท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวบริเวณอ่าวพังงาด้วยเช่นกัน
11. เราแนะนำให้คุณลองมาเที่ยวเกาะปันหยีด้วยตัวเองดู เพราะจะสนุกไปกับการสำรวจวิถีชีวิตผู้คนทุกซอกทุกมุม ได้คุยกับชาวบ้าน หรือจะตัดสินใจพักโฮมสเตย์ที่นี่ไปเลยก็จะดีมาก ๆ รับรองเลยว่าคุณจะได้เห็นมุมมองความสวยงามของเกาะปันหยีที่ต่างไปจากเดิมแน่นอน
12. อย่าลืมแวะชมความสวยงามของมัสยิดเกาะปันหยีดารุสสลาม ศาสนสถานที่เปรียบเสมือนเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของชาวเกาะปันหยี ตัวอาคารมัสยิดเป็นอาคารสูงสองชั้น มองเห็นโดมสีทองเด่นตระหง่านแต่ไกล ภายในอาคารตกแต่งสวยงามด้วยหินอ่อน
13. พลาดไม่ได้กับอาหารทะเลที่ทั้งสด ใหม่ และอร่อย บนเกาะปันหยี ซึ่งมีอยู่หลายร้านไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว ได้แก่ มูเทียร่าห์ซีฟู้ด นิวเฟิร์นซีฟู้ด ซันนี่ซีฟู้ด อันดามันซีฟู้ด ปันหยีซีฟู้ด และร้านอาหารปันหยีบังกะโล เป็นต้น
14. นักท่องเที่ยวที่ต้องการหาซื้อของฝากที่เกาะปันหยีต้องไม่พลาดซื้อ “น้ำพริกกุ้งเสียบ” ว่ากันว่ารสชาติอร่อยมาก
15. บนเกาะปันหยีเรียกว่าได้มีความสะดวกสบายพอสมควร มีสัญญาณโทรศัพท์ มีไฟฟ้า มีน้ำประปาใช้ทุกครัวเรือน
เกาะปันหยี จังหวัดพังงา กับเรื่องราวน่ารู้มากมาย สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติ และหมู่บ้านกลางทะเล ท่ามกลางวิถีชีวิตชาวบ้านแสนเรียบง่าย
เกาะปันหยี จังหวัดพังงา หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยเป็นเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่กลางทะเล อันกลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่ต่างแวะเวียนมาสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สงบ และเป็นมิตรของชาวบ้าน ตลอดจนธรรมชาติสวย ๆ ยากที่ใครเห็นแล้วจะห้ามใจไม่รักได้ไหว วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาท่องเกาะปันหยีกัน และเมื่อทำความรู้จักเกาะปันหยีแล้วจะได้วางแผนเที่ยวกันได้สบาย ๆ
เกาะปันหยี ประวัติ
1. เกาะปันหยี ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา คำว่า “ปันหยี” แปลว่า ธง เป็นศัพท์อินโดนีเซีย ซึ่งในอดีตมีครอบครัวชาวชวา หรือชาวอินโดนีเซีย 3 ครอบครัว หนึ่งในนั้นมี “โต๊ะนาบู” เป็นผู้นำการอพยพออกมาหาที่ทำกินใหม่ ตกลงกันว่าหากใครพบที่ทำกินที่อุดมสมบูรณ์ ให้ปักธงไว้ และกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะปันหยีนั่นเอง
2. เกาะปันหยี เป็นเกาะเล็ก ๆ มีพื้นที่ราบอยู่ประมาณ 1 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทะเลอ่าวพังงา และบริเวณป่าชายเลนอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา โดยบนเกาะปันหยีมีโรงเรียน สถานีอนามัย มัสยิด และร้านค้า อยู่บนเกาะ
3. เกาะปันหยีประกอบด้วยหมู่บ้านจำนวน 4 หมู่บ้าน คือ
– หมู่ที่ 1 บ้านท่าด่าน ตั้งอยู่บริเวณน้ำตื้นในอ่าวพังงา
– หมู่ที่ 2 เกาะปันหยี ตั้งอยู่บริเวณน้ำตื้นในอ่าวพังงา
– หมู่ที่ 3 เกาะไม้ไผ่ ตั้งอยู่บนเกาะและป่าชายเลนอ่าวพังงา
– หมู่ที่ 4 เกาะหมากน้อย ตั้งอยู่บนเกาะในอ่าวพังงา
โดยชาวบ้านบนเกาะปันหยีส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และมีศาสนาอื่น ๆ อย่างศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ นับถือรองลงมาตามลำดับ
4. พื้นที่เกาะปันหยีมีจำนวนจำกัด ทำให้ต้องสร้างบ้านเรือน ร้านค้า และโรงเรียนในน้ำ ทำให้ในช่วงเวลาน้ำขึ้น แลดูเหมือนว่าหมู่บ้านปันหยีลอยอยู่กลางท้องทะเล นั่นเป็นเพราะบ้านเรือนเหล่านั้น ถูกสร้างยกระดับให้พ้นการขึ้น-ลงของน้ำทะเล ซึ่งสร้างอยู่บนเสาที่ปักในเลนมาตั้งแต่อดีต
5. ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เกาะปันหยียังคงยึดการทำประมงพื้นบ้านเป็นอาชีพหลัก สังเกตได้จากกระชังเลี้ยงปลาที่อยู่รอบ ๆ เกาะ ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงร้านอาหารให้นักท่องเที่ยวสามารถรับประทานอาหารได้ที่นี่
เที่ยวเกาะปันหยี
6. ไฮไลต์สำคัญของเกาะปันหยี นั่นคือ สนามฟุตบอลลอยน้ำ แห่งเดียวในประเทศไทย ที่กลายเป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวของเกาะปันหยีที่โด่งดังไปทั่วโลก ที่มาจากความตั้งใจของเด็ก ๆ ในชุมชน จนพัฒนาเป็นทีม “ปันหยี เอฟซี” และประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ฟุตบอลหลายรายการ ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 2 สนาม ได้แก่ สนามเดิมที่ยังสามารถเห็นแผ่นกระดานไม้ และสนามใหม่ที่ใช้ทุ่นลอยน้ำทำเป็นสนามฟุตบอล
7. เกาะปันหยียังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม ได้แก่
– บ้านกลางน้ำ เป็นหมู่บ้านเกาะปันหยีที่ปลูกสร้างอยู่กลางทะเลโดยไม่มีพื้นดินเลย เป็นชุมชนมุสลิมตั้งอยู่กลางทะเลมานานกว่า 200 ปี แหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแวะมาเยี่ยมชมตลอดปี
– ลานหอยมุก อยู่บริเวณท่าเรือ โดยเป็นที่ตั้งของรูปปั้นหอยมุกขนาดใหญ่ที่กลายเป็นแลนด์มาร์กของเกาะ
– ถ้ำทะลุ เป็นลักษณะคล้ายเกาะตั้งอยู่ในทะเล มีช่องว่างระหว่างกลางเรียกว่า ถ้ำทะลุ นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือแคนูชมบริเวณโดยรอบได้
– ภูเขาเขียน ชมภาพเขียนโบราณ เชื่อกันว่าเป็นภาพเขียนตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ปรากฏเป็นรูปต่าง ๆ เช่น ลิง ปลาโลมา และจระเข้ เป็นต้น
8. บนเกาะปันหยีไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และตัวนักท่องเที่ยวเองก็ไม่ควรนำติดตัวไปด้วยเช่นกัน รวมถึงควรแต่งกายให้สุภาพ และห้ามเล่นการพนันบนเกาะ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาวัฒนธรรมและประเพณีของชาวบ้านตามหลักศาสนาอิสลามนั่นเอง
9. ช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมของการเที่ยวเกาะปันหยี อยู่ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม-เมษายน ของทุกปี
10. นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเกาะปันหยีส่วนใหญ่มักซื้อโปรแกรมทัวร์จากจังหวัดต่าง ๆ ที่มีให้เลือกหลากหลายราคา ขึ้นอยู่กับว่าโปรแกรมทัวร์นั้นจะพาคุณไปชมยังจุดไหนบ้าง ซึ่งเกาะปันหยีมักจะถูกรวมอยู่ในจุดท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวบริเวณอ่าวพังงาด้วยเช่นกัน
11. เราแนะนำให้คุณลองมาเที่ยวเกาะปันหยีด้วยตัวเองดู เพราะจะสนุกไปกับการสำรวจวิถีชีวิตผู้คนทุกซอกทุกมุม ได้คุยกับชาวบ้าน หรือจะตัดสินใจพักโฮมสเตย์ที่นี่ไปเลยก็จะดีมาก ๆ รับรองเลยว่าคุณจะได้เห็นมุมมองความสวยงามของเกาะปันหยีที่ต่างไปจากเดิมแน่นอน
12. อย่าลืมแวะชมความสวยงามของมัสยิดเกาะปันหยีดารุสสลาม ศาสนสถานที่เปรียบเสมือนเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของชาวเกาะปันหยี ตัวอาคารมัสยิดเป็นอาคารสูงสองชั้น มองเห็นโดมสีทองเด่นตระหง่านแต่ไกล ภายในอาคารตกแต่งสวยงามด้วยหินอ่อน
13. พลาดไม่ได้กับอาหารทะเลที่ทั้งสด ใหม่ และอร่อย บนเกาะปันหยี ซึ่งมีอยู่หลายร้านไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว ได้แก่ มูเทียร่าห์ซีฟู้ด นิวเฟิร์นซีฟู้ด ซันนี่ซีฟู้ด อันดามันซีฟู้ด ปันหยีซีฟู้ด และร้านอาหารปันหยีบังกะโล เป็นต้น
14. นักท่องเที่ยวที่ต้องการหาซื้อของฝากที่เกาะปันหยีต้องไม่พลาดซื้อ “น้ำพริกกุ้งเสียบ” ว่ากันว่ารสชาติอร่อยมาก
15. บนเกาะปันหยีเรียกว่าได้มีความสะดวกสบายพอสมควร มีสัญญาณโทรศัพท์ มีไฟฟ้า มีน้ำประปาใช้ทุกครัวเรือน
เกาะปันหยี การเดินทาง
การเดินทางไปเที่ยวเกาะปันหยีนั้น สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือด่านศุลกากรพังงา ซึ่งมีเรือโดยสารไปเกาะปันหยีหลากหลายโปรแกรมให้เลือกตามใจชอบ โดยหมู่ที่ 1 บ้านท่าด่าน ระยะทางห่างจากอำเภอเมืองพังงาประมาณ 7 กิโลเมตร หมู่ที่ 2 เกาะปันหยี ระยะทาง 7 กิโลเมตร มีเรือรับจ้างตลอดวัน หมู่ที่ 3 เกาะไม้ไผ่ ระยะทาง 8 กิโลเมตร มีเรือรับจ้างบางเวลา และหมู่ที่ 4 เกาะหมากน้อย ระยะทาง 12 กิโลเมตร มีเรือเป็นเวลา
เกาะปันหยี จึงเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวทะเลที่หลายคนใฝ่ฝันอยากที่จะมาสัมผัสดูสักครั้ง แม้ว่าที่นี่จะไม่มีชายหาดสวย ๆ ให้เดินเล่น แต่เพื่อน ๆ จะได้รับรู้วิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย ท่ามกลางธรรมชาติของท้องทะเลสวย เป็นหมู่บ้านกลางทะเล ที่สวยและน่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว