วันนี้เราจะมาไกลกันสักหน่อย สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ เพราะจะตั้งอยู่ที่จังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย นั่นก็คือ บึงกาฬ นั่นเองค่ะ บอกเลยว่าจังหวัดนี้ ที่เที่ยวเยอะ จัดเต็ม ไม่แพ้ จังหวัดอื่นๆ ที่ดังๆ ในประเทศไทยเลยค่ะ วันนี้เราเลยจะพาไปรู้จัก ที่เที่ยวดัง และ Unseen สุดๆ อย่าง หินสามวาฬ กันค่า ตามมากันเลยเด้อ

ที่เที่ยวบึงกาฬ Unseen หินสามวาฬ

ความงดงามจากธรรมชาติ ที่ไม่ธรรมดา

ไฮไลท์ ของ หินสามวาฬ

หินสามวาฬ หนึ่งในจุดสถานที่ท่องเที่ยวของ ภูสิงห์ จังหวัดบึงกาฬ ตั้งอยู่ภายในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู อีกทีค่ะ โดยบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยกลุ่มก้อนหินรูปทรงต่างๆ หน้าผา และถ้ำ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ เกิดเป็นความสวยงามในแบบต่างๆ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะเดินทางมาเห็นด้วยตาตัวเองนั่นเองค่ะ

โดยที่บริเวณของ หินสามวาฬ นั้น จะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง แยกตัวเป็น 3 ก้อนใหญ่ๆ เรียงต่อกัน มีอายุประมาณ 75 ล้านปีเลยทีเดียว ความพิเศษของหินก็คือ เมื่อมองดูจากระยะไกลๆ หินสามก้อนนี้จะดูคล้ายกับฝูงครอบครัววาฬ มีทั้งพ่อวาฬ แม่วาฬ และลูกวาฬ นั่นเองค่ะ ซึ่งก็จะถูกเรียกตามขนาดของหินแต่ละก้อน

แต่ความ Unseen ของ หินสามวาฬ นั้น ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะที่นี่ยังเป็นหนึ่งใน จุดชมวิวที่สวยที่สุดในภูสิงห์ อีกด้วย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น ตอนที่พระอาทิตย์กำลังไต่ระดับขึ้นมาที่ขอบฟ้า เราจะได้เห็นแสงสีส้มของพระอาทิตย์ไล่เฉดสีกันอย่างสวยงามเลยทีเดียว

รวมไปถึงภาพวิวทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าแบบไกลสุดลูกหูลูกตา ที่สำคัญคือ เราจะได้เห็นผืนป่าสีเขียวที่อุดมสมบูรณ์ วิวของ ป่าภูวัว แก่งสะดอก ห้วยบังบาตร หาดทรายแม่น้ำโขง และภูเขาเมืองปากกระดิ่ง ประเทศลาว อีกด้วยค่ะ และถ้ามองให้ดีๆ อาจจะเห็นแม่น้ำโขงอยู่ไกลๆ อีกด้วยนะคะ สุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะคะ เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่อันซีนสุดๆ แบบหาที่ไหนไม่ได้แล้วจริงๆ

ชม หินสามวาฬ ที่ จุดเช็คอิน บึงกาฬ บนป่าภูสิงห์

การเดินทาง มายัง หินสามวาฬ

สำหรับใครที่สนใจมาที่ หินสามวาฬ นั้น รถที่จะขับขึ้นได้ต้องเป็นรถที่พร้อมจะลุยเท่านั้นค่ะ เพราะเส้นทางดินจะค่อนข้างแคบและชันพอสมควรเลยค่ะ แต่ถ้าใครไม่อยากขับรถขึ้นไปเองก็มีรถให้บริการค่ะ จะจอดให้บริการอยู่บริเวณที่ทำการภูสิงห์ ตั้งแต่ 05.30-17.00 น. ค่ะ โดยมีค่าบริการคันละ 500 บาท (ไป-กลับ) รถสามารถนั่งได้ถึง 10 คน และจะใช้เวลาในการขับรถขึ้นไปประมาณ 30-40 นาที จากจุดตรวจด้านล่างค่ะ

ที่นี่ สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ แนะนำให้มา ช่วงเวลาเช้า เพราะเราที่จะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมหมอกจางๆ ฟินที่สุดแล้วค่ะ สำหรับคนที่ต้องการชมพระอาทิตย์ให้มาตั้งแต่ 05.30 ค่ะ เพราะพระอาทิตย์จะขึ้นเร็วมากค่ะ 6 โมงเช้าโดยประมาณ

และเมื่ออยู่ด้านบนของป่าภูสิงห์แล้ว เราก็ต้องเดินเท้าเข้าไปอีก 200 เมตร ถึงจะเจอกับ หินวาฬพ่อ หินก้อนใหญ่สุด ซึ่งตรงนี้เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเลยค่ะ แนะนำว่าถ้าอยากได้ภาพหินพ่อแบบเต็มก้อน ต้องไปเดินถ่ายที่หินอีกก้อน นั่นก็คือ หินวาฬแม่ ที่อยู่ตรงกลางค่ะ โดยจะมีเป็นช่องให้เดินเข้าไป แต่ที่ หินวาฬลูก นั้น จะไม่สามารถเดินเข้าไปได้นะคะ เพราะไม่มีเส้นทางเข้าไป จะชมได้แค่หินวาฬพ่อและแม่ เท่านั้นค่ะ

ที่เที่ยว ใกล้เคียง หินสามวาฬ

นอกจาก จุดชมวิว หินสามวาฬ แล้วที่ ป่าภูสิงห์ แห่งนี้ยังมีที่เที่ยวรอบๆ อีกค่ะ ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิวถ้ำฤๅษี จุดชมวิวหินหัวช้าง กำแพงภูสิงห์ หัวใจภูสิงห์ เป็นต้น โดยสามารถแวะได้ทุกจุด บางจุดรถจะสามารถไปได้ถึง แต่บางจุดต้องใช้เวลาเดินเท้าเข้าไป และบางจุดก็ต้องใช้เจ้าหน้าที่นำทางเข้าไป ใครที่อยากจะเที่ยวเก็บให้ได้ทั้งหมดก็ต้องแพลนตารางกันดีๆ ด้วยนะคะ