สวนสาธารณะ “พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี” (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) อดีตเจ้าเมืองตรัง บิดาแห่งยางพาราไทย เพื่อให้ประชาชนกราบไหว้สักการะบูชา พักผ่อนชมธรรมชาติ และออกกำลังกายท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ของพืชไม้นานาพันธ์ ด้วยความรัก และตระหนักถึงคุณงามความดีของท่าน นายยรรยง วิโนทัย นายกเทศมนตรีเมืองตรังสมัยนั้น จึงได้ร่วมกับประชาชน พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์ขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่ท่าน ด้วยงบประมาณ 1,333,000 บาท และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2494 ซึ่งต่อมาได้มีการเรียกวันนี้ว่า “วันพระยารัษฎาฯ” ภายในสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ บริเวณตรงกลางจะมีการสร้างรูปปูนปั้นสีดำ ซึ่งเป็นภาพจำลอง “พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ” ในท่ายืนหันหน้าไปทางทิศใต้ แต่งกายด้วยเครื่องแบบเต็มยศยืนเด่นเป็นสง่า พร้อมทั้งมีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมสีขาวรองรับ และมีบันไดขึ้นลงทั้งสี่ด้าน ส่วนตรงเชิงบันไดขึ้นสู่อนุสาวรีย์ จะมีปาล์มใหญ่ทรงกลม ซึ่งเป็นปาล์มหายากจนนับได้ว่ามีเพียงที่ จ.ตรัง แห่งเดียวเท่านั้น ได้แก่ “ปาล์มเจ้าเมืองตรัง” หรือ “Governor of Trang” ขณะที่บริเวณพื้นโดยรอบของพื้นที่จะถูกปกคลุมไปด้วยหญ้าที่เขียวขจีรวมทั้งยังมีการติดตั้งลานน้ำพุจำนวนหลายจุดด้วย เที่ยวตรังสักการะเจ้าเมือง พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี บิดาแห่งยางพาราไทย ทั้งนี้ มิใช่เฉพาะชาวตรังเท่านั้น ที่จะเดินทางมายังสวนสาธารณะแห่งนี้ แต่ไม่ว่าใครต่อใครก็ตามที่มีโอกาสเดินทางผ่านเข้ามา จะต้องแวะเข้าไปกราบสักการะอนุสาวรีย์ “พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ” เพื่อความเป็นศิริมงคล รวมทั้งบรรดาข้าราชการในระดับต่างๆ ที่โยกย้ายเข้ามารับตำแหน่ง หรือแม้แต่บุคคลอื่นที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะมีประชาชนจำนวนหนึ่ง นำดอกไม้ ธูป เทียน และพวงมาลัย เข้าไปกราบไหว้บนบานสานกล่าว หรือแก้บนด้วยทองคำเปลว และประทัด พร้อมทั้งอาศัยบารมีของอดีตเจ้าเมืองตรัง เป็นร่มเงาปกป้องคุ้มครอง โดยเฉพาะในยามที่มีเรื่องเดือดร้อน หรือมีปัญหาต่างๆ นานัปการ สำหรับด้านทิศตะวันตกใกล้ประตูทางเข้าสวนสาธารณะจะมีเครื่องเล่นนานาชนิดเพื่อให้เด็กๆ ได้สนุกสนานกันตามใจชอบ ส่วนใหญ่ในช่วงเย็นจะมีชาวตรังทุกเพศทุกวันมาทานข้าว พบปะพูดคุย เที่ยวเล่น หรือออกกำลังกาย เพื่อเป็นการพักผ่อนเอาแรง ทามกลางบรรยากาศที่สดชื่น โดยเฉพาะเมื่อยามที่มีลมพัดโชยมา นอกจากนั้นบริเวณโดยรอบยังมีการสถานที่พักผ่อนไว้เป็นจุดๆ เพื่อความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางต้นไม้นานาพันธุ์ เช่น มะขาม ไทร ศรีตรัง น้ำเต้าอินเดีย ฯลฯ อีกทั้งบางต้นยังมีอายุยาวนานจนสูงใหญ่โตขนาดหลายคนโอบเลยทีเดียว ขณะเดียวกันยังได้มีการสร้างสวนสุขภาพขึ้น เพื่อรองรับผู้คนที่ชอบออกกำลังกายด้วย เดิมทีสถานที่แห่งนี้ “พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ” ได้มีการสร้าง “ตำหนักผ่อนกาย” ซึ่งได้รับพระราชทานนามมาจากรัชกาลที่ 5 เพื่อใช้รับเสด็จพระเจ้าแผ่นดิน และเจ้านายรวมทั้งรัชกาลที่ 6, 7 และ “สมเด็จพระศรีพัชรินทรา พระบรมราชินีนาถ พระพันปีหลวง” อีกทั้งยังเคยใช้เป็นศาลากลางจังหวัดในยุคแรกก่อนที่ตำหนักจะถูกทิ้งร้างให้ปรักหักพังไป และได้ประดิษฐานอนุสาวรีย์ไว้แทนที่ในเวลาต่อมา
ที่มา : http://trangcity.co/traveldetail.php?id=36