เที่ยวเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สุดชิล

เที่ยวเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ สุดชิล

 คนชอบเที่ยวเกาะยกมือขึ้น…วันนี้เราจะขอเอาใจคนชอบ “เที่ยวเกาะ” พาไปเที่ยว “เกาะเกร็ด” เกาะกลางลำน้ำเจ้าพระยา ใครจะรู้บ้างว่าภาคกลางของประเทศไทยเราก็มี “เกาะ” เหมือนกัน

“เกาะเกร็ด” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในจังหวัดนนทบุรี รู้จักกันดีในฐานะแหล่งชุมชนคนมอญที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผา และประเพณีวัฒนธรรมแบบพื้นบ้านดั้งเดิม ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการจุดลูกหนู งานตักบาตรทางน้ำ เป็นต้น

หลายปีที่ผ่านมาการท่องเที่ยวเกาะเกร็ดดูเหมือนจะเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จะเห็นได้จากวันเสาร์ – อาทิตย์ รวมถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์ บนเกาะจะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย ร้านค้า ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟก็ดูจะคึกคักสุด ๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวบนเกาะเกร็ดจะมีทั้งเดินเที่ยว ช้อปปิ้ง หาของอร่อย ๆ กิน บ้างก็เลือกนั่งเรือชมรอบเกาะ ทำเอาเพลิดเพลินใจไปอีกแบบ

ภาพจาก nathapol HPS / Shutterstock.com

ประวัติเกาะเกร็ด

          แต่ก่อนจะไปเที่ยวเรามาทำความรู้จักกับ “เกาะเกร็ด” กันให้มากขึ้นกว่านี้หน่อยดีกว่า เกาะเกร็ด เกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงส่วนที่เป็นแหลม ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2265 เรียกว่า “คลองลัดเกร็ดน้อย” ในจังหวัดนนทบุรี (คลองลัดเกร็ดใหญ่อยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ขุดลัดแม่น้ำเจ้าพระยาตอนท้ายอำเภอสามโคกมาทางใต้ถึงคลองขวางเชียงราก) ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางแรงขึ้น เซาะตลิ่งทำให้คลองขยาย แผ่นดินตรงแหลมจึงกลายเป็นเกาะ ชื่อเดิมเรียกว่า “เกาะศาลากุน”

          “เกาะเกร็ด” มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สังเกตได้จากวัดวาอารามต่าง ๆ บนเกาะส่วนใหญ่จะเป็นศิลปะในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่คงจะมาร้างคนเมื่อพม่ามายึดกรุงศรีอยุธยา หลังจากกอบกู้เอกราชได้ พระเจ้าตากสินมหาราชจึงโปรดให้ชาวมอญมาตั้งถิ่นฐานที่นี่ โดยชาวมอญบนเกาะเกร็ดนั้น มีทั้งที่เข้ามาในสมัยกรุงธนบุรี และสมัยรัชกาลที่ 2 ต่อมาเมื่อตั้งอำเภอปากเกร็ดขึ้นแล้ว “เกาะศาลากุน” จึงมีฐานะเป็นตำบล และเรียกว่า ตำบลเกาะเกร็ด เกาะนี้จึงมีชื่อว่า “เกาะเกร็ด”

ภาพจาก mai111 / Shutterstock.com

สถานที่ท่องเที่ยวเกาะเกร็ด

          ฮั่นแน่…เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ประวัติของที่นี่น่าสนใจไม่เบาเลยใช่ไหมล่ะ แต่ขอบอกว่านอกจากประวัติความเป็นมาจะน่าสนใจแล้วเนี่ย ที่ “เกาะเกร็ด” ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกเพียบ ถ้าอยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้าง เราไปดูพร้อม ๆ กันเลย…

          เริ่มกันที่วัดซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะเกร็ดไปแล้ว นั่นคือ “วัดปรมัยยิกาวาส” (วัดปากอ่าว) ในวัดนี้มีสิ่งที่น่าชมอยู่หลายอย่าง ที่ท่าเรือหน้าวัดจะพบปราสาทไม้ห้ายอด ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งเหม (โลงศพมอญ) ของอดีตเจ้าอาวาส ตั้งตระหง่านอยู่ ส่วนพระอุโบสถมีการตกแต่งด้วยวัสดุนำเข้าจากอิตาลี ศิลปะยุโรปแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่กระนั้นพระองค์ยังรักษาธรรมเนียมเดิม โดยรับสั่งให้ที่นี่ริเริ่มการสวดเป็นภาษามอญ และปัจจุบันที่นี่เป็นวัดเดียวที่ยังเก็บรักษาพระไตรปิฎกภาษามอญไว้ พระประธานในพระอุโบสถนั้นเป็นพระปางมารวิชัย ฝีพระหัตถ์ของพระองค์เจ้าประดิษฐานวรการ ผู้ที่สร้างพระสยามเทวาธิราช รัชกาลที่ 5 ทรงยกย่องว่าพระประธานองค์นี้งามด้วยฝีพระพักตร์ดูมีชีวิตชีวาเหมือนคนจริง ด้านหลังพระอุโบสถมีพระมหารามัญเจดีย์จำลองแบบมาจากเจดีย์ชเวดากองของเมียนมา

   พระวิหาร ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์สมัยอยุธยาตอนปลาย ขนาดยาว 9.50 เมตร ภาพจิตรกรรมที่เพดานนั้นแปลกตากว่าที่อื่น เป็นภาพลายปฐมจุลจอมเกล้า หน้าพระวิหารประดับตราพระเกี้ยว เป็นตราประจำพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านหลังพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี

          พระนนทมุนินท์ เป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยาตอนปลาย ปางขัดสมาธิเพชร ประดิษฐานอยู่ในบุษบกแบบมอญ (จองพารา) สลักโดยฝีมือช่างที่นี่ ที่มุขเด็จหน้าวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อน ซึ่ง ซาง ซิว ซูน ชาวเมียนมา ถวายให้กับรัชกาลที่ 5 พระวิหารเปิดทุกวันตั้งแต่ 08.30-16.30 น.

          อย่างไรก็ตามเอกลักษณ์ของมอญอีกอย่างหนึ่งในวัดนี้ คือ “เจดีย์ทรงรามัญ” ที่จำลองแบบมาจากพระธาตุเจดีย์มุเตา เมืองหงสาวดี ซึ่งคนมอญนับถือมาก ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เนื่องจากเจดีย์อยู่ติดแม่น้ำ กระแสน้ำกัดเซาะฐานราก ทำให้เจดีย์มีลักษณะเอียง ดูแปลกตา นับเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเกาะเกร็ด 

    ส่วนที่ “พิพิธภัณฑ์วัดปรมัยยิกาวาส และหอไทยนิทัศน์เครื่องปั้นดินเผา” จะจัดแสดงวัตถุต่าง ๆ ที่ล้วนน่าชม เช่น พระพิมพ์ เครื่องแก้ว เครื่องถ้วยชาม รวมทั้ง “เหม” ที่ พ.อ. ชาติวัฒน์ งามนิยม บรรจงสร้างขึ้น จนนับว่าเป็นงานศิลป์ชิ้นเยี่ยมชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว นับตั้งแต่การออกแบบโครงสร้าง การต่อลาย การตอกไข่ปลาเพื่อต่อลายบนกระดาษอะลูมิเนียม ทุกชิ้นส่วนที่นำมาประกอบเป็นเหมนี้ ล้วนแต่ต้องทำอย่างละเอียด ประณีต เชื่อว่าชาวมอญคงดัดแปลงลักษณะของเหมมาจากโลงของพระพุทธเจ้า ซึ่งก้นสอบปากบานข้างแคบเช่นกัน (ในพิพิธภัณฑ์แสดงภาพไว้) โลงเหมใช้กับศพแห้ง เหมพระ จะมีลักษณะพิเศษกว่าตรงที่เจาะหน้าต่างมองเห็นศพด้านในได้ ทั้งนี้เปิดให้เข้าชมในวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00-16.00 น. ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 09.00-17.00 น. โดยไม่เก็บค่าเข้าชม

 “วัดเสาธงทอง” เป็นวัดเก่า เดิมชื่อ “วัดสวนหมาก” นอกจากเป็นที่ตั้งโรงเรียนประถมแห่งแรกของอำเภอปากเกร็ดแล้ว ด้านหลังโบสถ์ยังประดิษฐานเจดีย์ที่สูงที่สุดของอำเภอปากเกร็ดด้วย พระเจดีย์เป็นศิลปะอยุธยาย่อมุมไม้สิบสอง มีเจดีย์องค์เล็กเป็นบริวารโดยรอบอีก 2 ชั้น ส่วนด้านข้างโบสถ์มีเจดีย์องค์ใหญ่อีก 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังหรือทรงลังกา อีกองค์หนึ่งเป็นเจดีย์ทรงมะเฟือง ภายในโบสถ์มีลายเพดานสวยงามมาก เขียนลายทองกรวยเชิงอย่างงดงาม พระประธานเป็นพระปางมารวิชัยปูนปั้นขนาดใหญ่ คนมอญเรียกวัดนี้ว่า “เพี๊ยะอาล๊าต” หน้าโบสถ์มีเจดีย์ขนาดย่อมสององค์ รูปทรงคล้ายมะเฟือง ฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมสิบสอง ประดับลายปูนปั้น

“วัดฉิมพลีสุทธาวาส” มีโบสถ์ขนาดเล็กงดงามมาก และยังมีสภาพสมบูรณ์แบบดั้งเดิม หน้าบันจำหลักไม้เป็นรูปเทพทรงราชรถ ล้อมรอบด้วยลายดอกไม้ ซุ้มประตูเป็นทรงมณฑป ซุ้มหน้าต่างแบบหน้านาง ยังคงเห็นความงามอยู่ และฐานโบสถ์โค้งแบบเรือสำเภา

 “วัดไผ่ล้อม” สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย มีโบสถ์ที่งดงามมาก ลายหน้าบันจำหลักไม้เป็นลายดอกไม้ มีคันทวยและบัวหัวเสาที่งดงามเช่นกัน คนมอญเรียกวัดนี้ว่า “เพี๊ยะโต้”

“กวานอาม่าน” พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา เป็นศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านชาวมอญ จัดแสดงเครื่องปั้นดินเผามอญลายโบราณ การปั้นเครื่องปั้นดินเผานั้นเป็นอาชีพชาวมอญมาตั้งแต่ครั้งตั้งถิ่นฐานแถบลุ่มแม่น้ำอิรวดี และมีมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี นับเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี ลวดลายประณีตสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และยังเป็นสัญลักษณ์ตราประจำจังหวัดนนทบุรี

ภาพจาก Bubbers BB / Shutterstock.com

  สองข้างทางเดินบนเกาะมีบางบ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผา ภาชนะของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น กระถาง ครก โอ่งน้ำ ฯลฯ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 09.00–17.00 น. สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 0 2584 5086  

 “คลองขนมหวาน” บริเวณคลองขนมหวานและคลองอื่น ๆ รอบเกาะเกร็ด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่สองฝั่งคลองจะทำขนมหวาน จำพวกทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง และขนมหวานอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมสาธิตวิธีการทำให้นักท่องเที่ยวได้ชม พร้อมซื้อกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วย

ภาพจาก Anirut Thailand / Shutterstock.com
ภาพจาก Watchares Hansawek / Shutterstock.com

อย่างไรก็ตามแรงดึงดูดอย่างหนึ่งบนเกาะเกร็ดที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่นี่ คงหนีไม่พ้นเรื่องของอาหารการกินที่ดูจะหลากหลายมากมายกันจนลายตา (แหม…เห็นแล้วมันน่าหม่ำนักล่ะ) ไม่ว่าจะเป็น “ข้าวแช่” อาหารของชาวมอญ ที่สืบทอดสูตรกันมายาวนาน รับประทานพร้อมเครื่องเคียงครบรสที่มีให้เลือกเพียบ คือ ลูกกะปิทอด, หมูกับปลาเค็มปั้นทอด, ไชโป๊หวาน, ปลาหวาน, พริกหยวกสอดไส้, หัวหอมทอดสอดไส้ และผักชนิดต่าง ๆ

 ส่วนใครที่ไปเกาะเกร็ดแล้วไม่ได้รับประทาน “ทอดมันหน่อกะลา” ก็เหมือนไปไม่ถึง เพราะ “ทอดมันหน่อกะลา” ถือเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่เลยก็ว่าได้ แถมยังมีให้เลือกซื้อเลือกชิมหลายร้าน ทั้งเจ้าเก่าเจ้าใหม่ เรื่องของรสชาตินั้นไม่ต้องพูดถึง เรียกได้ว่า อร่อยไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว

   นอกจากนี้ตามร้านค้าสองข้างทางยังมีอาหารอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมชั้น รวมถึงของคาวอย่าง ห่อหมกปลาช่อน ห่อหมกปลากราย ไข่ปลาทอด ผักทอด พร้อมร้านขายน้ำเก๋ ๆ ที่ขายน้ำพร้อมแก้วน้ำกระถาง ปั้นโดยฝีมือคนท้องถิ่นนั่นเอง และที่ขาดไม่ได้เลย คือ ร้านจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผา โอ่ง กระถาง เซรามิกรูปร่างต่าง ๆ ก็มีให้เลือกซื้อเลือกชมกันอย่างละลานตา

ภาพจาก Supak Suetrong / Shutterstock.com

  ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น บนเกาะเกร้ดยังมีร้านกาแฟหรือคาเฟ่ตกแต่งเก๋ ๆ เปิดให้บริการมากมาย เช่น @บ้านกาแฟเลขที่ ๑, RongSi Coffee, ยกเย็นขึ้นบก, ร้านบ้านเรา เกาะเกร็ด และคั่วมือ Coffee & Gallery ฯลฯ

ภาพจาก Ployzei / Shutterstock.com

    สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการล่องเรือรอบเกาะเกร็ดเพื่อชมทัศนียภาพรอบเกาะ สามารถติดต่อได้ที่ท่าเรือวัดปรมัยยิกาวาส โดยเรือจะพาเที่ยวชมวิถีชีวิตริมน้ำ แวะสถานที่ท่องเที่ยวและวัดวาอาราม ได้แก่ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ วัดศาลากุน ชมการสาธิตการผลิตเครื่องปั้นดินเผา เข้าคลองบางบัวทองชมการทำขนมหวานที่ขึ้นชื่อของเกาะเกร็ด ซึ่งจะมีบริการเรือด่วนพิเศษธงเขียวออกทุก ๆ ชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที เริ่มตั้งแต่เวลา 06.10-19.00 น.

ภาพจาก Bubbers BB / Shutterstock.com

    ทั้งนี้เกาะเกร็ดในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมีร้านค้าเปิดให้บริการมากกว่าวันธรรมดา จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวมากกว่าปกติ สามารถเที่ยวได้ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น.

การเดินทาง

          รถยนต์ : เดินทางโดยรถยนต์มาที่ห้าแยกปากเกร็ด ตรงไปตามถนนแจ้งวัฒนะ ทางไปเทศบาลปากเกร็ด จากห้าแยกประมาณ 20 เมตร ก่อนถึงโรงหนังเมเจอร์ ฮอลลีวูด เลี้ยวซ้ายเข้าถนนภูมิเวท ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงวัดสนามเหนือจอดรถไว้ที่วัด แล้วนั่งเรือข้ามไปเกาะเกร็ด (แนะนำว่าถ้าจะเอารถไปจอดที่วัดสนามเหนือควรไปก่อนเที่ยงจะดีมาก เพราะหลังเที่ยงเป็นต้นไปอาจจะหาที่จอดรถได้ค่อนข้างลำบาก)

          เรือ : เดินทางจากกรุงเทพฯ โดยเรือด่วนเจ้าพระยาออกจากท่าวัดสิงขร ลงที่ท่าน้ำจังหวัดนนทบุรี จากนั้นเช่าเหมาเรือหางยาวที่ท่าน้ำนนทบุรี ไปที่เกาะเกร็ด หรือนั่งเรือรถประจำทางจากท่าน้ำนนทบุรีไปที่อำเภอปากเกร็ด แล้วลงเรือที่วัดสนามเหนือหรือวัดกลาง เรือบริการระหว่างเวลา 08.30-18.30 น. สามารถตรวจสอบรายละเอียดของเที่ยวเรือและราคาได้ที่ chaophrayaexpressboat.com

ภาพจาก NATTAPON JUIJAIYEN / Shutterstock.com

รถโดยสาร : ขึ้นรถเมล์สาย 166 จากอนุสาวรีย์ชีย-ปากเกร็ด และรถตู้โดยสารจากอนุสาวรีย์ชีย-ปากเกร็ด และจากเดอะมอลล์บางกะปิ-ปากเกร็ด ให้ลงรถที่ป้ายโรงหนังเมเจอร์ ฮอลลีวูด แล้วนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไปที่ท่าเรือวัดสนามเหนือหรือวัดกลางเกร็ด

          นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด โทรศัพท์ 0 2583 9544, 02 960 9063 แล้วเจอกันที่ “เกาะเกร็ด” นะคะ

ที่มา : https://travel.kapook.com/view649.html

ผู้นำเสนอ

kimmy

Share

Written by:

371 Posts

View All Posts
Follow Me :