ท่องเที่ยวพิจิตรพิสมัย 3 วัน 2 คืน (8 – 10 เมษายน 2565)

ท่องเที่ยวพิจิตรพิสมัย 3 วัน 2 คืน (8 – 10 เมษายน 2565)

วันที่ 8 เม.ย.65 : วัดวรนาถบรรพต – ศาลเจ้าเทพารักษ์ – พิพิธภัณฑ์บ้านดงโฮจิมินห์

06.00 น. คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดหมาย ปั้มปตท. (รพ.ทหารผ่านศึก) ตรงข้าม ม.หอการค้าไทย

             เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ และ บริการเครื่องดื่มร้อน

06.30 น. พร้อมออกเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศ มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์

             รับประทานอาหารเช้า (1)

10.30 น. คณะเดินทางถึง จ.นครสวรรค์ กราบสักการะ “หลวงพ่อทอง” ณ “วัดวรนาถบรรพต” พระอารามหลวง

             “หลวงพ่อทอง” เป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียง ในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นพระที่เคร่งครัดในพระวินัย มีชื่อเสียงมาก

             ในด้านวิชาอาคม มีวิชาที่เข้มขลัง เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชน

เที่ยง        รับประทานอาหาร กลางวัน (2)

13.30 น. เดินทางต่อไปยัง ศาลเจ้าเทพารักษ์ ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์ – เจ้าแม่ทับทิม หรือศาลเจ้าพ่อแควใหญ่ โดยตัวศาลเจ้านั้น

ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามตลาดปากน้ำโพ ย้อนรอยเรื่องราว ไม่มีประวัติความเป็นมาแน่ชัดถึงการสร้าง
ศาลเจ้าแห่งนี้ รวมทั้งไม่ปรากฏชื่อว่าผู้ใดเป็นผู้สร้าง แต่จากหลักฐานระฆังโบราณได้พบจารึกเป็นภาษาจีนว่า
นายหงเปียว แซ่พู่ แห่งหมู่บ้านเคอเจี้ยซัน อำเภอวุ้นอี้ (ปัจจุบัน คือ วุ้นซ้ง) มลฑลไหหลำ ได้เดินทางมามอบระฆังใบนี้ในปี พ.ศ. 2413 ในสมัยรัชกาลที่ 5 นั่นเอง

15.30 น. เยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์บ้านดงโฮจิมินห์” สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพไทย – เวียดนาม  แสดงให้เห็นถึงการหล่อหลอม
ทางวัฒนธรรมอันแตกต่างร่วมกันของผู้คนในชุมชน และมิตรภาพอันดีของคนไทยที่มีต่อชาวเวียดนามตั้งแต่อดีต
จนถึงปัจจุบัน ที่ผูกพันมายาวนานเกือบร้อยปี

17.30 น. ถ่ายภาพ อาทิตย์ยามเย็น ณ บึงสีไฟ เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่อันดับสามของประเทศที่มีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ บรรยากาศรอบๆ บึงสีไฟ มีความสงบงามและเป็นธรรมชาติจึงกลายเป็น สถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวพิจิตร

18.30 น. รับประทานอาหารค่ำ (3)

19.00 น. นำท่านเข้าที่พัก โรงแรมฟ้าหลวงเรสซิเด้นซ์ (พัก 2 คืน) หรือเทียบเท่า พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 9 เม.ย.65 :      วัดหงษ์ –  ศาลเจ้าแม่ทับทิมท่าฬ่อ – ย่านเก่าวังกรด – วัดนครชุม – วัดท่าหลวง

07.30 น. รับประทานอาหารเช้า (4) ณ ห้องอาหารของที่พัก

08.00 น. ออกเดินทางไปยัง “วัดหงษ์” มีโบราณวัตถุสำคัญ คือ พระพุทธรูป พระประธานในโบสถ์ นามว่า “หลวงพ่อเหลือ

ซึ่งในอดีตวัดแห่งนี้เป็นวัดร้าง อยู่ริมแม่น้ำน่านความศักดิ์สิทธิ์อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อเหลือ กลายเป็น
ที่เลื่องลือ “บนบานศาลกล่าว ขอเงินได้เงิน ของานได้งาน ขอมีลูกชายหญิงได้สมดั่งใจ

09.30 น. จากนั้น เดินทางไป “ศาลเจ้าแม่ทับทิม ท่าฬ่อ” ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพิจิตร

             และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งผู้คนนิยมเดินทางมาขอบุตรที่นี่ ภายในศาลเจ้ามีองค์เจ้า

แม่ทับทิมเป็นองค์ประธาน ถัดจากศาลเจ้ายังมี “โรงเรียนยกเอ็ง” ในอดีตเคยเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนให้แก่คนไทย และสอนภาษาไทยให้แก่คนจีน ซึ่งปัจจุบันภายในห้องเรียนได้ทำเป็นห้องจำลองจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ ให้แก่นักท่องเที่ยว

10.30 น. นั่งรถรางเที่ยวชม “ย่านเก่าวังกรด” แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Tourism Awards) สาขาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ประจำปี 2019 นั่งรถรางสัมผัสเสน่ห์วิถีชีวิตชุมชนบ้านเรือน อาคารไม้เก่าแก่ แวะชิมสาคูไส้หมูป้าเฒ่าเจ้าอร่อย

11.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย ณ “ย่านเก่าวังกรดเพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน

บ่าย        จากนั้นนำทุกท่านไปชมอาคารตึกปูนหลังแรกของวังกรด ณ “ตึกหลวงประเทืองคดี” และทำกิจกรรม DIY ย้อมผ้า

             ร่วมกับชุมชน

15.30 น.     นำท่านสู่ วัดนครชุม หรือวัดใหญ่ วัดนี้เป็นวัดที่สร้างในสมัยสุโขทัย มีอายุราว 800 ปี ด้านตะวันออกมีพระอุโบสถ    

เก่าแก่มาก ก่อสร้างด้วยอิฐฉาบปูน เครื่องบนเป็นไม้โดยใช้สลักไม้แทนตะปู มีช่องระบายลมแทนหน้าต่าง พระอุโบสถหลังนี้เคยเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเพชร ซึ่งปัจจุบันได้อัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดท่าหลวง ปัจจุบันประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ก่ออิฐถือปูน ลักษณะแบบสุโขทัยเป็นพระพุทธรูปที่ใช้เป็นประธานในพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาในสมัยก่อน

16.30 น.    นมัสการพระคู่บ้าน จังหวัดพิจิตร “หลวงพ่อเพชร ณ วัดท่าหลวง” วัดท่าหลวงเป็นวัดสำคัญของจังหวัดพิจิตร วัดนี้

สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2388 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเพชร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสมัยเชียงแสน หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ มีพุทธลักษณะงดงามมาก
มีหน้าตักกว้าง 1.40 เมตร สูง 1.60 เมตร เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองพิจิตร ประวัติมีอยู่ว่า พระพิจิตร ซึ่งเป็น
เจ้าเมืองอยากได้พระประธานมาประดิษฐานที่เมืองพิจิตร ในโอกาสที่ทัพกรุงศรีอยุธยาได้เดินทางผ่านเมืองพิจิตร
เพื่อไปปราบขบถจอมทองเมืองเชียงใหม่ พระพิจิตรจึงได้ขอร้องแม่ทัพว่า เมื่อปราบขบถเสร็จแล้วให้หาพระพุทธรูป
มาฝาก ดังนั้น เมื่อเสร็จศึก แม่ทัพนั้นจึงได้อาราธนาพระพุทธรูปหลวงพ่อเพชรลงแพลูกบวบล่องมาทางแม่น้ำปิง โดยฝากเจ้าเมืองกำแพงเพชรไว้ ต่อมาจึงได้อาราธนาหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานไว้ ณ อุโบสถวัดนครชุมก่อน แล้วจึงย้ายมาประดิษฐานที่พระอุโบสถวัดท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตร จนถึงปัจจุบัน

18.00 น.    รับประทานอาหารเย็น (5)

     หลังอาหารเดินทางกลับเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 10 เม.ย.65  (อาทิตย์)     ตักบาตรทางน้ำคลองข้าวตอก – ชุมชนบางมูลนาก -วัดโพธิ์ประทับช้าง – ศาลเจ้าพ่อนาคราช 

06.30 น. รับประทานอาหารเช้า (6)  ณ ห้องอาหารของที่พัก

07.30 น. ร่วมสืบสานวิถีชาวพุทธ  ตักบาตรทางน้ำ หนึ่งเดียวในจังหวัดพิจิตร

(ตลาดชุมชนคุณธรรมวัดดงกลาง) โดยชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วย
พลังบวรวัดดงกลาง ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน และจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ ณ บริเวณหน้าตลาดชุมชนคุณธรรมวัดดงกลาง (คลองข้าวตอก) (ไม่รวมชุดใส่บาตร ชุดละ50บาท)

09.00 น. เดินทางถึง วัดโพธิ์ประทับช้าง เป็นโบราณสถานที่เก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2242-2244 ในสมัยสมเด็จ

พระสุริเยนทราธิบดี (ขุนหลวงสรศักดิ์หรือพระพุทธเจ้าเสือ) พระมหากษัตริย์สมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็น อนุสรณ์สถาน ณ สถานที่ประสูติของพระองค์ ลักษณะของวัดมีพระวิหารสูงใหญ่ มีกำแพงล้อมรอบ 2 ชั้น เป็นศิลปะแบบอยุธยา ปัจจุบันได้รับการบูรณะซ่อมแซมจากกรมศิลปากร เพื่ออนุรักษ์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ชม ภายในอุโบสถมี  พระพุทธรูปหลวงพ่อโต หน้าตักกว้าง 4 ศอก กว้าง 5 ศอก เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น  เป็นพระประธานประจำอุโบสถวัดโพธิ์ประทับช้าง หลวงพ่อโต หรือ หลวงพ่อยิ้ม เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ อีกองค์หนึ่ง ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือมาก

10.30 น. เดินทางไป ชุมชนบางมูลนาก เดินเที่ยวชม “ตลาดฟื้นอดีตร้อยปีบางมูลนาก”สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน
ชาวบางมูลนากในอดีต ที่ปัจจุบันยังคงไม่แปรผันไปตาม

เที่ยง        บริการอาหารเที่ยง (แบบสเต็คท่านละ 1ชุด เลือกหมู ,ไก่,ปลา)

             พื้นดินทั้งหมดอยู่ เลยทำให้เกิดการตั้งศาลเจ้านี้ขึ้นมา       

15.00 น. เดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

17.30 น. รับประทานอาหารค่ำ (8) เลือกซื้อของฝาก ก่อนเดินทางกลับ

20.00 น. ทุกท่านเดินทางถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

———————————————————

*** โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงสภาพภูมิอากาศและประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ                                 

เดินทาง 8-9  เมษายน  2565

อัตราค่าบริการ

ที่พักผู้ใหญ่พักเดี่ยวเพิ่ม
     ผู้ใหญ่ท่านละ          4,800.-/ท่าน   1,000.-/ท่าน

อัตรานี้รวม

– รถโค้ช มาตรฐาน ปรับอากาศ

– ค่าที่พัก 2 คืน                                                                                                

 – ค่าอาหารทุกมื้อ ตามที่ระบุในรายการ

– ค่าเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ , อาหารว่าง บริการตลอดการเดินทางบนรถ

– ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งตามที่ระบุในรายการ

– ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทางในวงเงินท่านละ  1,000,000  บาทและค่ารักษาพยาบาล

    ท่านละ 500,000 บาท เงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม

อัตรานี้ไม่รวม

-ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ที่ไม่ได้ระบุในรายการ อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่ม และอาหารที่สั่งพิเศษ และไม่ได้ระบุในรายการ

-ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม

-ค่าทิป สินน้ำใจ สำหรับ พนักงานขับรถและทีมงาน (ท่านละ 200บ.)ที่คอยบริการท่านตลอดการเดินทาง                        

วิธีการจอง :

  • กรุณาชำระมัดจำ  ภายใน 3 วัน จากวันจอง  ท่านละ 1,500 บาท
  • โอนชำระมัด ที่ บัญชี ธ.ไทยพานิชย์ 053-2720891 ชื่อบัญชี นางสาวสิรัสริญญ์ แสงสุวรรณ์

เงื่อนไขการยกเลิก:

  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วัน คืนเต็มจำนวน
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15 วัน หักค่าใช้จ่าย 60% ของราคาทัวร์
  • ยกเลิกการเดินทาง 1-7 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของราคาทัวร์
  • ในกรณีจองโรงแรมไปแล้ว ทางบริษัทฯ จะคิดค่าบริการตามจริง

โปรดทราบ:

  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทาง ในกรณีที่มีผู้เดินทางต่ำกว่า 26 ท่าน โดยที่จะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบอย่างน้อย 15 วัน ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ, การนัดหยุดงาน, การประท้วง, ภัยธรรมชาติ, การก่อจราจล, อุบัติเหตุ, ปัญหาการจราจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงถึงและจะรักษาผลประโยชน์ของท่านไว้ให้ได้มากที่สุด

        เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯ แจ้งแล้วข้างต้น

Share