ชมพลับพลึงธาร ราชินีแห่งสายน้ำ ที่มีอยู่เพียง 2 แห่งในโลกเท่านั้น
ถ้าการท่องเที่ยวของเราได้เจออะไรใหม่ๆ ในทุกๆ วันก็คงจะดีไม่น้อย วันนี้เที่ยวสร้างสรรค์ขอชวนทุกคนมาเที่ยวไปกับเรา เพื่อชมธรรมชาติที่มีเสน่ห์และหาชมได้ยากอย่างพลับพลึงธาร ที่จังหวัดระนองกันค่ะ
หากประเทศญี่ปุ่นมีดอกซากุระที่มีความสวยงามและมีช่วงเวลาหนึ่งของปีในการผลิบานให้ผู้คนได้รอยลโฉม ประเทศไทยของเราก็มีดอกไม้ที่มีความสวยงาม จนได้รับฉายาว่าเป็นราชินีแห่งสายน้ำ มีช่วงเวลาในการผลิดอกแค่เพียงปีละ 1 ครั้งให้เราได้ชื่นชม และที่พิเศษสุดๆ นั่นคือมีให้ชมเพียงแค่ 2 แห่งในโลกเท่านั้น!!พิเศษขนาดนี้เราต้องมาทำความรู้จักดอกไม้ชนิดนี้กันแล้วล่ะ ซึ่งก็คือ พลับพลึงธาร นั่นเอง
ทำไมพลับพลึงธารจึงเป็นราชินีแห่งสายน้ำ
พลับพลึงธาร หรือ หอมน้ำ เป็นพันธุ์ไม้น้ำที่มีอายุหลายปี มีดอกคล้ายดอกพลับพลึง แต่ลำต้นขึ้นอยู่ในน้ำ
มักขึ้นตามลำธารธรรมชาติที่ใสสะอาด มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เสน่ห์ของพลับพลึงธาร คือ เป็นไม้น้ำที่มีกลิ่นหอม มีดอกขนาดใหญ่ เป็นช่อชูเหนือน้ำ สวยงาม ประดับลำธารที่ขึ้นอยู่ จนได้รับสมญาว่า “ราชินีแห่งสายน้ำ”
พลับพลึงธารสำคัญอย่างไร
นอกจากความสวยงามประดับลำคลองแล้วด้วยลักษณะของพลับพลึงธารที่มีใบยาวได้ถึง 3 เมตร พัดโบกไปตามกระแสน้ำ ทำให้กลายเป็นแหล่งหลบภัยและวางไข่ของปลาและสัตว์ต่างๆ ดอกและละอองเกสรของพลับพลึงธารเป็นแหล่งอาหารของแมลงและผึ้ง และผลยังเป็นอาหารให้หนอนและแมลงต่างๆ อีกด้วย พลับพลึงธารมีรากที่ยาว สามารถยึดดินและป้องกันไม่ให้หน้าดินถูกชะล้าง ดังนั้นบริเวณที่พลับพลึงธารขึ้นหนาแน่น จะช่วยลดความแรงของกระแสน้ำ ลดการพังทลายของตลิ่งและหน้าดิน และดักตะกอนในลำน้ำทำให้แหล่งน้ำมีความใสสะอาด
นอกจากนี้พลับพลึงธารยังสามารถใช้เป็นดัชนีวัดความสมบูรณ์ของระบบนิเวศได้อีกด้วย เพราะจะเติบโตได้ดีในแหล่งน้ำใสไหลตลอดปี ดังนั้นหากจะรักษาพลับพลึงธารให้อยู่ได้ จำเป็นต้องรักษาสายน้ำและป่าต้นน้ำให้ดี
ดูพลับพลึงธารได้ช่วงไหน และที่ไหนได้บ้าง
พลับพลึงธาร เป็นพืชเฉพาะถิ่นของไทย พบได้เพียงแห่งเดียวในโลกเท่านั้น บริเวณแถบจังหวัดพังงาตอนบน และระนองตอนล่าง ขึ้นตามลำธารธรรมชาติที่ใสสะอาด มีน้ำไหลตลอดทั้งปี โดยพลับพลึงธารมักจะมีดอกในฤดูมรสุม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ บานสะพรั่งเหนือน้ำเพียงปีละ 3 เดือน ประมาณปลายตุลาคม–ธันวาคม เท่านั้นและที่ชุมชนบ้านไร่ใน ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง นี้ก็เป็น 1 ในแหล่งชมพลับพลึงธารตามธรรมชาติที่น่าสนใจและมีกิจกรรมสนุกๆให้ทำอีกด้วย
ชมพลับพลึงธารที่บ้านไร่ในพิเศษอย่างไร
พลับพลึงธารที่บ้านไร่ในนั้นเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยขึ้นตามคลองที่ไหลผ่านที่ดินของคนในชุมชน คุณอัมรินทร์ ประสมพล ผู้นำกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านไร่ใน เล่าว่า
หลังจากรู้ว่าพื้นที่ของพวกเขามีพลับพลึงธารขึ้นอยู่และเป็นพืชที่มีประโยชน์และหาดูได้ยาก ถือเป็นขุมทรัพย์อันล้ำค่า จึงสละพื้นที่ของตนให้เป็นแหล่งชมพลับพลึงธาร อีกทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้และศึกษาวิจัยสำหรับผู้ที่สนใจอีกด้วย โดยพื้นที่ที่มีพลับพลึงธารนั้นต้องเดินเท้าเข้าไป ลัดเลาะไปตามเลียบคลองต่างๆ ซึ่งจะมีจุดที่ให้ชมพลับพลึงธารอยู่ 3 จุด ดังนี้
ระหว่างทางก็จะมีพืชผัก และต้นไม้ที่ชาวบ้านในพื้นที่ปลูกไว้ ได้แก่ ต้นปาล์ม เป็นสวนปาล์มย่อมๆ ให้บรรยากาศร่มรื่นมากๆ
นอกจากนี้ยังมีผักกูด ซึ่งชาวบ้านที่นำเราเดินชมก็ใจดี สอนวิธีเก็บผักกูด และให้เรานำผักกูดมาสำหรับเป็นมื้อเย็นแสนอร่อย
ระหว่างทางก็มีดอกไม้ที่สวยงาม นอกจากจะได้ชมพลับพลึงธารแล้ว ยังเหมือนได้ศึกษาพืชพรรณธรรมชาติอีกด้วย
หลังชมพลับพลึงธารแล้ว ที่ศาลาเอนกประสงค์ของชุมชนมีกิจกรรมให้เราได้ปลูกพลับพลึงธารกันด้วย โดยทางทีมงานจะจัดเตรียมตะกร้าพร้อมดินไว้ให้ พร้อมกับเมล็ดพลับพลึงธาร วิธีการปลูก คือ แกะเมล็ดพลับพลึงธารออกจากฝัก ซึ่งฝักหนึ่งจะมีเมล็ด 5-6 เมล็ด จากนั้นนำเมล็ดมาปักลงไปในตะกร้าดินที่เตรียมไว้ ปักแต่ละเมล็ดห่างกันประมาณ 1 นิ้ว ปักไปเรื่อยๆ จนทั่วตะกร้า จากนั้นนำกากมะพร้าวมาโรยด้านบน พร้อมแปะชื่อแสดงความเป็นเจ้าของไว้ ก็เป็นอันเสร็จสิ้น โดยขั้นตอนสุดท้ายพี่ๆทีมงานจะนำพลับพลึงธารที่เราตั้งใจปลูก ไปวางในคลอง จากนั้นก็มารอลุ้นกันดูว่าต้นพลับพลึงธารที่เราปลูกนี้จะเติบโตออกดอกสวยงามบานสะพรั่งในอีก 3 ปีข้างหน้าหรือไม่ คงต้องกลับมาดูกัน
ใครที่สนใจสัมผัสประสบการณ์ชมพลับพลึงธาร ราชินีแห่งสายน้ำ ที่มีเพียง 2 แห่งในโลกเท่านั้น ก็สามารถมาชมกันได้ที่บ้านไร่ใน ต.นาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง หนึ่งในแหล่งชมพลับพลึงธารตามธรรมชาติที่สมบูรณ์ ใกล้ชิดธรรมชาติ ในบรรยากาศที่อบอุ่นน่ารักจากการต้อนรับของชาวบ้านไร่ในที่เป็นกันเองมากๆ และยังได้ลงมือปลูกพลับพลึงธารเพื่ออนุรักษ์ให้พลับพลึงธารได้เติบโตในธรรมชาติที่เหมาะสม เพื่อสร้างความสมดุลให้ธรรมชาติ และสร้างรายได้ให้ชุมชนบ้านไร่ในแห่งนี้ต่อไป
มาชมดอกพลับพลึงธาร ดอกไม้ที่มีความสวยงามและหาดูได้ยาก และชวนคนที่คุณรักมาปลูกพลับพลึงธารไปด้วยกันนะคะ แล้วอย่าลืมกลับมา ดูว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า พลับพลึงธารที่ปลูกด้วยกันนั้นได้เติบโต บานสะพรั่ง สวยงามเหมือนความรักของคุณรึเปล่า …:)
สุดท้ายนี้ หากคุณได้รู้จักกิจกรรมท่องเที่ยวของบ้านไร่ในและพลับพลึงธารแล้ว ช่วยบอกเราหน่อยว่าคุณสนใจไปเที่ยวชมหรือร่วมทำกิจกรรมท่องเที่ยวนี้ไหม อะไรทำให้คุณสนใจ หรือต้องการรู้อะไรเพิ่มเติมที่กระตุ้นความสนใจของคุณได้ เพื่อเราจะนำความคิดเห็นของคุณไปพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกับชุมชนต่อไป ได้โปรดแสดงความคิดเห็นใต้บทความนี้
ศูนย์อนุรักษ์พลับพลึงธาร จังหวัดระนอง
9FG8+RV3 ตำบล นาคา อำเภอ สุขสำราญ ระนอง 85120
