วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ อยากจะหาที่ เที่ยวใกล้กรุงเทพ เป็นที่ศึกษาประวัติศาสตร์และที่สำคัญ ต้องสวยงามด้วย แบบว่าถ่ายรูปมุมไหนก็สวยไปหมด จริงๆ แล้วมีเยอะมากทีเดียว แต่วันนี้เราจะพาไป จังหวัดนครปฐม ที่ พระราชวังสนามจันทร์ กันค่ะ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังประจำจังหวัด ที่นี่จะมีอะไรให้ชมกันบ้างนั้น ต้องตามมาดูค่ะ
เมื่อก่อนนั้น ในหลวง รัชกาลที่ 6 ขณะที่ดำรงพระราชอิสริยยศยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร ก็ได้ทรงรับพระราชภาระจากในหลวง รัชกาลที่ 5 ว่าให้ปูกระเบื้องประดับองค์พระปฐมเจดีย์ ทำให้ทรงมีความคุ้นเคยกับบริเวณแถวนี้ และทรงตระหนักถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของเมืองนครปฐม 
พระองค์จึงมีพระราชประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังที่ประทับในการแปรพระราชฐานมายังเมืองนครปฐมแห่งนี้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ขอซื้อที่ดินจากราษฎรเพื่อจัดสร้างพระราชวัง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาวิศุกรรมศิลปประสิทธิ์(น้อย ศิลปี) เป็นผู้ออกแบบและดำเนินการก่อสร้าง โดยพระราชทานนามพระราชวังแห่งนี้ว่า ” พระราชวังสนามจันทร์ “
ที่พระราชวังสนามจันทร์ แห่งนี้ ใครที่ไปชมสามารถเข้าชมบริเวณรอบๆ ได้ด้วยรถรางบริการฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าใครสนใจจะชมภายในจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ อาคารหลักของที่นี่ จะมีหลังคาเป็นสีส้มแดง ตำหนักแรกที่จะไปคือ พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ ศิลปะ-สถาปัตยกรรมแนวเรอเนซองส์ของฝรั่งเศสเป็นหลัก
ตัวอาคารจะเป็นสีไข่นวลๆ อาคารนี้มีความเป็นสากล ส่วนด้านหน้าของพระตำหนัก จะมีอนุสาวรีย์ของ ย่าเหล สุนัขที่โปรดปรานของในหลวง รัชกาลที่ 6 และด้านหลังพระตำหนักก็จะมีสะพานข้ามแอ่งน้ำ ที่มุงบังด้วยหลังคากันแดดไปถึง พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์
ในการเข้าชมพระตำหนักด้านใน คือ ห้ามถ่ายภาพ เพราะภายในนั้นจะมีการจัดเป็นห้องแสดงบรรยากาศในสมัยรัชกาลที่ 6 มีเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในยุคนั้น ถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ด้านวัฒนธรรมอย่างนึง ในส่วนของ บริเวณใกล้ๆ จะมี พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ ขนาดจะใหญ่กว่าตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ ที่จะอยู่บนสนามหญ้าข้างบ่อน้ำ ล้อมรอบด้วยต้นไม้
จากพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ไปทางฝั่งซ้ายจะมี พระที่นั่งพิมานปฐม พระที่นั่งหลังแรกของวังสนามจันทร์ ลักษณะตึกสีขาว สร้างไว้เพื่อต้อนรับอาคันตุกะ แขกที่มาเยือน และยังใช้เป็นที่ทรงพระอักษรเมื่อเสด็จมาประทับที่นี่อีกด้วย เราสามารถเข้าด้านในได้ ที่นี่จะมีห้องต่างๆ เหมือนการใช้ชีวิตประจำวันโดยทั่วไป อย่างห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสรง ห้องภูษา และห้องแสดงภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังทางพระพุทธศาสนา หรือห้องพระเจ้า จากชั้นสองของพระที่นั่งพิมานปฐม มีทางเชื่อมเดินไปถึง พระที่นั่งวัชรีรมยา ได้ แต่ดูด้านนอกอาจจะมีความเหมือนกับวัด เพราะมีหลังคาประดับด้วยช่อฟ้าและยังใช้สีส้มเป็นหลักอีกด้วย ส่วนตึกที่อยู่ติดกับพระนั่งนี้ จะคือ พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์ ค่ะ
อีกพระตำหนัก อย่าง พระตำหนักทับขวัญ จะเหมือนหมู่เรือนไทย คือยกชั้นใต้ถุนต่ำ ต่อจากพระตำหนักนี้ ก็เป็น พระตำหนักทับแก้ว พระตำหนักนี้มีความต่างกับพระตำหนักทับขวัญอย่างมาก คือจะเป็นอาคารสองชั้นสีขาว บันไดทางขึ้นชั้นสองจะอยู่นอกตึก ที่นี่คือตำหนักฤดูหนาวที่มีเตาผิงไว้คอยให้ความอบอุ่นค่ะ และส่วนแสดงอื่นๆ ยังมี โรงรถหลังคาสีเขียว ที่มีรถจอดอยู่ เป็นรถยุโรปรุ่นเก่าแก่ และศาลาท่าน้ำ ที่สามารถนั่งชมเป็ดว่ายน้ำและให้อาหารปลาได้อีกด้วยค่ะ 
ที่สำคัญยังมี ศาลเทพารักษ์ เป็นศาลเปิดโล่งคล้ายซุ้ม 2 ชั้น บริเวณนี้จะมีต้นไม้ พร้อมกับสวนที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม และยังประดิษฐานพระพิฆเนศอีกด้วยนะคะ สำหรับใครที่ชื่นชอบศิลปะและประวัติศาสตร์ในสมัยรัชกาลที่ 6 และชอบของเก่านั้น ที่นี่ก็นับว่าตอบโจทย์มากเลยค่ะ เพราะถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้เห็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ไทยของเราค่ะ
ที่อยู่ : พระราชวังสนามจันทร์ ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
