เตรียมสร้างสนามแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน “ยูซีไอ” นอกเหนือจากการสร้างทางจักรยานและช่องทางวิ่งรอบบึงสีไฟ ด้าน “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” อดีต รมช.คมนาคม และ รมช.คลัง พร้อมด้วย “นายพยนต์ อัศวพิชยนต์” ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ “พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์” นายก อบจ.พิจิตร พร้อมผลักดันอย่างเต็มที่
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และประธานที่ปรึกษาสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะคณะกรรมการพัฒนาบึงสีไฟ ได้มอบหมายให้จังหวัดพิจิตร ร่วมกับ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ดำเนินการพัฒนาเส้นทางรอบบึงสีไฟให้เป็นเส้นทางปั่นจักรยานและเส้นทางวิ่งควบคู่กันไป เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพิจิตรได้มาออกกำลังกาย รวมทั้งจัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย และระดับนานาชาติ ซึ่งในปี 2566 จังหวัดพิจิตรจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย 4 รายการ ในช่วงเดือนมกราคม และมีนาคม 2566
พลเอกเดชา กล่าวว่า คณะกรรมการพัฒนาบึงสีไฟ นำโดย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และตนเอง พร้อมทีมงานฝ่ายเทคนิคของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้เดินทางไปประชุมร่วมกับจังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยมี นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง, อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิจิตร 4 สมัย ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ, นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร, พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งในส่วนของเส้นทางปั่นจักรยานและช่องทางวิ่ง มีระยะทางยาว 10.28 กิโลเมตร แบ่งเป็นเส้นทางปั่นจักรยานกว้าง 8 เมตร และเส้นทางวิ่งออกกำลังกายอีก 8 เมตร ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 80% มีกำหนดแล้วเสร็จปลายเดือนธันวาคมนี้
“หลังจากที่ท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ และคณะกรรมการพัฒนาบึงสีไฟ ประชุมร่วมกับจังหวัดพิจิตร เพื่อพัฒนาพื้นที่บึงสีไฟให้เป็นเส้นทางจักรยานและเส้นทางวิ่งแล้ว ท่านสุทธิพงษ์ยังได้เสนอให้พัฒนาพื้นที่โดยรอบเป็นลานกีฬาชนิดต่าง ๆ อาทิ สนามวอลเลย์บอลชายหาด, สนามแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ เพื่อให้เยาวชนได้หันมาเล่นกีฬาและห่างไกลยาเสพติด รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้มาออกกำลังกาย โดยนำดินที่ขุดลอกจากบึงสีไฟที่ตื้นเขินมาใช้สร้างทางจักรยานและสนามบีเอ็มเอ็กซ์ เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณของแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ท่านสุทธิพงษ์ มีแนวคิดว่าอยากให้ทำสนามบีเอ็มเอ็กซ์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐานของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ ยูซีไอ สามารถจัดการแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์ระดับโลกได้ ซึ่งผมได้มอบหมายให้ นายฮาร์วีย์ เครป ผู้เชี่ยวชาญด้านจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ จาก ยูซีไอ เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างสนามแห่งนี้” พลเอกเดชา กล่าว
นายกสองล้อไทย เจ้าของฉายา “หมึกต้นแบบ” กล่าวอีกว่า นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์, นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายก อบจ.พิจิตร มีนโนบายที่จะผลักดันให้จังหวัดพิจิตรก้าวไปสู่การเป็นเมืองกีฬา หรือ “Sport City” ในอนาคต ซึ่งปัจจุบันนี้จังหวัดพิจิตรมีการจัดแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ลำน้ำน่าน หน้าวัดท่าหลวง เป็นประจำทุกปี และมีสโมสรฟุตบอลพิจิตร ยูไนเต็ด ล่าสุดก็เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2566 สนามที่ 1 ระหว่างวันที่ 14-15 มกราคม 2566 โดยใช้เส้นทางรอบบึงสีไฟ และเส้นทางใกล้เคียง
พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้จังหวัดพิจิตรยังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2566 สนามที่ 3 ระหว่างวันที่ 2-5 มีนาคม 2566 ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ลงทะเบียนสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ในประเภทเสือภูเขา รายการครอสคันทรี่ บรรจุลงปฏิทินประจำปี 2023 ให้เป็นการแข่งขันรายการนานาชาติ ระดับ C1 มีการเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส ดังนั้นจะมีนักกีฬาจากต่างชาติเดินทางมาร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมาก โดยจะแข่งขันที่จุดชมวิวเขาดิน ตำบลวังทับไทร อำเภอสากเหล็ก
“ขณะเดียวกันคณะกรรมการพัฒนาบึงสีไฟ ยังมีโครงการพัฒนาอุทยานบัว รวมถึงหอชมนกที่อยู่ในบริเวณบึงสีไฟ ให้มีความสวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของพี่น้องชาวจังหวัดพิจิตร และนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ โดยจะเนรมิตให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดพิจิตร มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน เป็นทั้งสถานที่ออกกำลังกาย และแข่งขันกีฬาระดับประเทศ หรือระดับนานาชาติในอนาคต เป็นการสร้างวิถีชีวิตทางธรรมชาติให้ประชาชนชาวจังหวัดพิจิตรได้มาพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย ที่สำคัญจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดพิจิตรได้เป็นอย่างดี” พลเอกเดชา กล่าวเสริมในตอนท้าย.
