8 จุดเช็คอิน “บ้านอีต่อง” หมู่บ้านกลางสายหมอก จังหวัดกาญจนบุรี

8 จุดเช็คอิน “บ้านอีต่อง” หมู่บ้านกลางสายหมอก จังหวัดกาญจนบุรี

เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ออกเดินทางท่องเที่ยว ไปเยือนที่ หมู่บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี ที่หลายคนที่มาเยือนที่นี่ยกให้เป็น หมู่บ้านกลางสายหมอกในช่วงหน้าฝน จากการเดินทางในครั้งนี้ เราเองได้ประทับใจอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ สภาพอากาศที่เย็นสบาย ความน่ารักและอัธยาศัยดีของผู้คนในหมู่บ้าน และที่สำคัญ คือ เรื่องราวความเป็นมาของที่นี่ วันนี้เราเลยรวบรวม 8 จุดเช็คอิน มาฝากเพื่อนๆ ที่กำลังคิดวางแผนจะมาเที่ยวที่นี่ ตามนี้เลยค่ะ

1.หมู่บ้านอีต่อง

บ้านอีต่อง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา ตั้งอยู่ที่ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่นี่จะกลายเป็นหมู่บ้านกลางสายหมอกที่มีเสน่ห์มากๆ เลยล่ะค่ะเริ่มจาก ป้ายไม้ทางเข้าหมู่บ้าน เป็นจุดสำคัญ ที่ผู้มาเยือนที่นี่ต้องถ่ายภาพเก็บไว้ดู ว่าครั้งหนึ่งเคยมาเยือนที่หมู่บ้านนี้ และอีกตัวตึกแถวที่เรียงรายอยู่หน้าหมู่บ้าน พร้อมทั้งสระน้ำ ยิ่งช่วงหลังฝนตก หมอกฟุ้งลอยขึ้นจากน้ำ สวยไปเลยล่ะค่ะ

พิกัด : บ้านอิต่อง

2.สะพานป้ายไม้

“สะพานป้ายไม้ บ้านอีต่อง” ถือว่าเป็นสะพานป้ายไม้ที่มีความคลาสสิคมากๆอีกที่หนึ่ง ที่เราเคยเห็นมา ตั้งอยู่ริมบ่อน้ำหน้าหมู่บ้านนั้นเองค่ะ โดยจะมีร้านขายป้ายไม้อยู่ข้างๆ ถ้าจำไม่ผิดราคาเพียงอันละ 20 บาทเท่านั้น ซึ่งหลายคนที่มาที่นี่ อาจจะเขียนบอกความรู้สึกในใจ หรือเขียนชื่อตนเองกับคนรัก แล้วนำไปแขวนตามขอบระเบียงของสะพานที่จัดไว้ให้ จุดนี้ ถือว่าเป็นอีกจุดเช็คอินของบ้านอีต่องที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ

พิกัด : สะพานป้ายไม้ บ้านอีต่อง

3.น้ำตกจ๊อกกระดิ่น

น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เป็นอีกที่ ที่เราว่าสวยไม่แพ้ที่อื่นเลยล่ะ ซึ่งคำว่า จ๊อกกระดิ่น เป็นภาษาพม่า ที่เดิมเรียกว่า ก๊อกกระด่าน ซึ่งหมายถึง น้ำที่ไหลผ่านซอกหินผานั้นเองค่ะ

น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ต้องบอกว่า “ใครที่ได้เล่นน้ำตกที่นี่ เหมือนได้อาบน้ำแร่ไปในตัว” เลยล่ะค่ะ เพราะเป็นน้ำตกที่มีแหล่งกำเนิดของต้นน้ำที่ผุดขึ้นจากภูเขาอีปู่ ซึ่งเป็นพื้นที่เหมืองแร่ทังสแตน จึงทำให้เสมือนได้เล่นน้ำแร่จากธรรมชาติ

ใครที่มาช่วงนี้ ทางเจ้าหน้าที่อุทยานได้เปิดให้สามารถลงเล่นน้ำได้ เนื่องจากปิดไม่ให้เล่นมานาน จากสถานการณ์โควิด โดยน้ำตกแห่งนี้จะอยู่ก่อนถึงตัวหมู่บ้านอีต่องประมาณ 7- 8 กิโลค่ะ ที่สำคัญเมื่อเที่ยวน้ำตกเสร็จแล้ว เราสามารถนำบัตรเข้าชมนี้ไปยืนให้กับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เพื่อขอเข้าชมภายในของอุทยานต่อได้เลยค่ะ

พิกัด : น้ำตกจ๊อกกระดิ่น

4.สะพานเหมืองแร่

สะพานเหมืองแร่ อีกหนึ่งจุดที่เป็นเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของที่นี่ เพราะเป็นสะพานไม้เก่าแก่ที่สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2482 ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านใกล้กับสะพานป้ายไม้ ใครที่มาเที่ยวที่นี่ อย่าลืมแวะเข้ามาชมสะพานเหมืองแร่กันนะคะ

พิกัด : สะพานเหมืองแร่

5.เหมืองปิล็อกเก่า

เรื่องราวของ เหมืองปิล็อกเก่า ในอดีตนั้นเคยรุ่งเรืองมาก่อนค่ะ เพราะมีการค้นพบแร่เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดีบุก วุลเฟรม ทังเสตน และสายแร่ทองคำ เป็นต้น ในปี พ.ศ. 2483 ที่นี่ได้เปิดเป็นธุรกิจทำเหมืองแร่ จึงได้เกิดเหมืองแร่น้อย ใหญ่ต่างๆ ผุดขึ้นมามากมาย และต่อมาเมื่อราคาแร่ตกทั่วโลก จึงทำให้ธุรกิจเหมืองแร่ของที่นี่ซบเซาและปิดตัวลงในที่สุดค่ะ

ซึ่งในปัจจุบันเหมืองปิล็อกเก่านี้ ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนหมู่บ้านนี้ ได้เข้ามาชมซากเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการทำเหมืองแร่เมื่อในอดีต โดยภายในจะมีจุดให้เข้าชมมากมายเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ทำเหมืองแร่ พัสดุเหมืองแร่ เรือนรับรอง เตยเหาะ สะพานหินเรียง บังเกอร์และบ่อปลาคาร์ฟ เป็นต้นค่ะ ซึ่งเหมืองปิล็อกนี้จะอยู่ตรงข้ามกับป้ายไม้ทางเข้าหมู่บ้านอีต่อง มาแล้วลองเข้ามาชมกันดูนะคะ

พิกัด : เหมืองปิล็อกเก่า

6.จุดชมวิวเนินช้างศึก

จุดชมวิวเนินช้างศึก หรือที่หลายคนเรียกว่า ยอดดอยปิล็อก ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างชายแดนไทยและพม่า โดยจุดชมวิวนี้จะอยู่รอบนอกหมู่บ้านอีต่องออกมา ประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ ซึ่งช่วงฤดูนี้มีฝนตกบ่อย ใครที่จะมาชมจุดชมวิวเนินช้างศึก อาจจะต้องอาศัยรถของชาวบ้านขึ้นไปค่ะ เพราะถนนหนทางไม่ค่อยดี และค่อนข้างชัน มีหลุม มีบ่อใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ  ถ้าไม่คุ้นกับเส้นทางอาจเกิดอันตรายได้

ใครที่มาเที่ยวที่นี่ จุดชมวิวเนินช้างศึก ต้องห้ามพลาดเป็นอันขาด แต่ตัวเราเอง พลาด…ที่มาในวันที่ไม่สามารถกำหนดธรรมชาติได้ ซึ่งฝนตกหนักหมอกปกคลุม มองอะไรไม่เห็นเลยล่ะค่ะ เลยไม่มีภาพวิวเขาสวยๆ ของที่นี่มาให้ชมกัน สงสัยเราคงตัวกลับไปอีกรอบแล้วล่ะค่ะ

ซึ่งลุงคนขับรถที่เราเหมารถมา แกบอกเราว่าในช่วงเดือนตุลาคม ที่นี่จะมองเห็นวิวเขาที่มีหมอกสวย หรือจะมาชมพระอาทิตย์ตก ก็สวยไปอีกแบบค่ะ ลองมาสัมผัสกันดูนะคะ เราว่าจะมาช่วงฤดูไหนธรรมชาติก็สวยอยู่ดีค่ะ

พิกัด : ฐานปฏิบัติการช้างศึก

7.วัดพระธาตุเหมืองปิล็อก

วัดพระธาตุเหมืองปิล็อก เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้านนี้ ซึ่งตัววัดมีการออกแบบ เป็นศิลปะแบบพม่า ที่มีพระธาตุประดิษฐานตั้งอยู่บนเจดีย์ของภูเขาลูกเล็กๆ ตลอดทางที่เราเดินขึ้นบันไดจะมีพระสงฆ์จำลองยืนเรียงแถวรับบิณฑบาตอยู่ ถ้ามองลงไปจากเจดีย์จะเห็นโบสถ์ของวัดพระธาตุเหมืองปิล็อก และวิวของหมู่บ้านที่ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา มีสายหมอกไหลผ่านจางๆ ซึ่งจากจุดนี้ทำให้เราได้เห็นวิวของหมู่บ้านอีต่องที่สวยไปอีกแบบ และแตกต่างไปจากมุมอื่นๆ ในหมู่บ้าน

พิกัด : วัดพระธาตุเหมืองปิล็อก

8.อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตัวอุทยานจะตั้งอยู่ก่อนถึงหมู่บ้านอีต่อง ประมาณ 8 กิโลเมตรค่ะ ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์ป่าเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์และเป็นผืนป่าผืนเดียวกันกับประเทศพม่า จึงมีการย้ายถิ่นฐานไปมาของสัตว์ป่าอยู่เรื่อยๆ

โดยภายในของอุทยานจะมีจุดชมวิวให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิวเนินช้างเผือก จุดชมวิวเนินช้างพลาย และ จุดชมวิวเนินกูดดอย ซึ่งวิวเขาแต่ละจุดก็จะมีความสวยที่แตกต่างกันไป

พิกัด : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

ขอพูดถึงในส่วนจุดเช็คอินอื่นๆ นอกเหนือจาก 8 สถานที่ ที่เรากล่าวมา ยังมี เหมืองสมศักดิ์ (ที่อยู่นอกตัวหมู่บ้าน) ศาลเจ้าพ่อสะด่อง ถนนคนเดิน หรือตัวตลาดบ้านอีต่อง และ จุดชมวิวเนินเสาธง (ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมค่ะ) ซึ่งเราอยากแนะนำให้มาช่วงวันหยุดที่พ่วงต่อกับวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะร้านขายของในตัวตลาดจะครึกครื้นกว่าวันปกติ แต่วันปกติธรรมดาจันทร์ถึงศุกร์ ที่นี่ก็จะเงียบสงบดีค่ะ จะได้อีกบรรยากาศ แต่จะลำบากหน่อยตรงหารถไปเที่ยวจุดอื่นๆ ที่อยู่นอกหมู่บ้าน อย่างน้ำตก เนินช้างศึก เพราะจะมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างน้อยหน่อย อาจจะต้องเหมารถไปเองค่ะ ใครจะมาลองวางแผนดีๆ นะคะ

ที่มา : https://travel.trueid.net/detail/yVD76WABWaj4

ผู้นำเสนอ

kimmy

Share

Written by:

371 Posts

View All Posts
Follow Me :